อันดับที่ 1 AMA สุดจี๊ด เตรียมแจ้งกำไร Q4 แรงฟ้าผ่า
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ตลอดทั้งสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้า (3-12 ม.ค.61) คาดราคาหุ้น บมจ.อาม่า มารีน หรือ AMA จะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะน่าจะเป็นช่วงที่นักลงทุนเลือกสะสมหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และทำกำไรสูง โดย บล.โกลเบล็ก ได้เลือกให้หุ้น AMA เป็นหุ้นเด่นที่น่าสะสม เพราะไตรมาส 4/2560 จะแจ้งกำไรสุทธิทำ New high โดยสอดคล้องกับกองเรือที่ทำ New High เป็นไตรมาสแรก โดยไตรมาส 4/2560 กองเรือที่ทำจุดสูงสุดใหม่ เต็มไตรมาสเป็นไตรมาสแรกในระดับ 8.3 หมื่น DWT เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ 4.7 DWT ดังนั้น ทั้งปี 2560 กำไรจะทำ New High ที่ 186.5 ล้านบาท เติบโต 29.8% จากปีก่อน ส่วนปี 2561 มีแผนเพิ่มเรืออีก 2 ลำ พร้อมกับเป็นปีแรกที่ประกอบการด้วยกองเรือระดับสูงสุด คือ 8.4 หมื่นตัน ดังนั้นปี 2561 คาดกำไร New High ต่อเนื่องที่ 254 ล้านบาท เติบโต 36% จากปีก่อน แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมายราคาที่ 19.40 บาท
อันดับที่ 2 TASCO ราคาวิ่งรับยางมะตอยพุ่ง มีโอกาสแตะแนวต้านที่ 23 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ราคาหุ้น บมจ. ทิปโก้แอสฟัลท์ หรือ TASCO ปรับตัวเพิ่มขึ้นช่วงเช้านี้ที่ระดับ 22.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 0.45% นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ธนชาต กล่าวว่า มาจากปัจจัยยอดขายยางมะตอยเพิ่มขึ้นมาในช่วงนี้เฉลี่ย 5-6 หมื่นตันต่อเดือน จาก 3 หมื่นตันต่อเดือนในช่วง 2 เดือนก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีการซ่อมบำรุงถนน และก่อสร้างถนนมากขึ้น ขณะที่ราคายางปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 9,000 บาทต่อตัน และมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น 10,000 ต่อตันตามทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนเข้าเก็งกำไร โดยประเมินแนวรับที่ 22.20 บาท แนวต้านที่ 22.70 บาท หากยืนอยู่ในระดับราคานี้ได้มีโอกาสเห็นแนวต้านถัดไปที่ 23 บาท
อันดับที่ 3 2 เซียนหุ้นเชียร์ ”ซื้อ” , มองผลงานสดใส ตามราคาถั่วเหลืองเป็นขาขึ้น ให้ราคาเหมาะสม 34 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการประเมิน บมจ. น้ำมันพืชไทย หรือTVO พบว่า แนวโน้มธุรกิจในปี 2561 จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยราคาถั่วเหลือง และกากถั่วเหลืองที่อยู่ในขาขึ้น ซึ่งจะทำให้ยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นแข็งแกร่งขึ้นดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” โดยมีราคาพื้นฐานที่ 34.00 บาท ด้าน บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า ภาพรวม TVO ในช่วงปี 2561 มีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นตามความต้องการที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในประเทศจีน ซึ่งยังมีการเติบโตของการใช้ราว 10% ต่อปี ทำให้คาดว่าแนวโน้มราคาจะปรับขึ้นได้ ขณะที่อุปสงค์ในประเทศคาดจะได้ปัจจัยหนุนจากการเลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ทางบริษัทยังสามารถควบคลุมค่าใช้จ่ายในการบริหารและกระบวนการผลิตต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะส่งผลดีต่อกำไรสุทธิของบริษัทต่อไปในอนาคต ดังนั้น แนะนำ “ทยอยซื้อ”
อันดับที่ 4 CENTEL ลงทุนไม่ต่ำกว่า 2 พันลบ. ขยายธุรกิจโรงแรม-อาหาร โบรกฯ เคาะเป้า 60 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา หรือ CENTEL ราคาหุ้นเปิดตลาดเช้าปรับตัวขึ้นสูงสุด 60.00 บาท ล่าสุด (10.55 น.) ราคาอยู่ที่ 58.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.86% ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 99.08 ล้านบาทโดย ดร. รณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร CENTEL เปิดเผยว่า แผนดำเนินธุรกิจปี 2561 บริษัทเตรียมใช้งบลงทุนรวมไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ธุรกิจโรงแรม ลงทุนประมาณ 600 ล้านบาท, ธุรกิจอาหาร ลงทุนประมาณ 600 ล้านบาท, ขยายธุรกิจโรงแรมราคาประหยัดแบรนด์ COSI แห่งที่ 2 ที่พัทยา ลงทุนเพิ่ม 300 ล้านบาท รวมถึงลงทุนสร้างโรงแรมแห่งใหม่ที่ประเทศดูไบที่ถือหุ้นในสัดส่วน 40% อีกกว่า 500 ล้านบาท
ด้านนักวิเคราะห์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ประเมินว่า หลังจาก CENTEL เปิดตัวโรงแรมราคาประหยัดแบรนด์ COSI ไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และมีแผนจะเปิดแห่งที่สองในปี 2562 นอกจากนี้ บริษัทคาดจะเปิดโรงแรมร่วมทุน ถือหุ้นสัดส่วน 40% ที่ดูไบในปี 2563 และธุรกิจอาหารมีแผนมีแผนเปิดสาขาร้านอาหารเพิ่ม 60-70 สาขา คงคำแนะนำ “ซื้อ” และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 60 บาท
อันดับที่ 5 , ปี61ลุยลงทุนระบบสมาร์ทซิตี้ รองรับการลงทุนในพื้นที่ EEC โบรกชี้เป้า 30 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA ช่วงเช้าปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ 27 บาทเพิ่มขึ้น 1 บาท หรือ 3.85% โดยแหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรมเปิดเผยว่า คาดว่าจะมาจากข่าวดีที่ในเดือนมกราคม 2561 นี้ AMATA เตรียมความพร้อมในการลงทุนธุรกิจใหม่และเริ่มลงทุนนำร่องระบบสมาร์ทซิตี้ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร-อมตะซิตี้พื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อรองรับการลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ที่จะมีการลงทุนด้านนวัตกรรมตามการส่งเสริมของรัฐบาล และสนับสนุนอุตสาหกรรมเก่ายกระดับนวัตกรรมให้ทันสมัย ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินกำไรสุทธิของ AMATA ในปี 60-61 ที่ 1.5 และ 1.8 พันล้านบาท ขยายตัวที่ 25% และ 23% ตามลำดับ จากการส่งเสริมโครงการของภาครัฐ (EEC) ส่งผลให้ยอดขายที่ดินในนิคมอมตะนคร และอมตะซิตี้ดีขึ้น รวมทั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศเวียดนาม โดยเฉพาะเวียดนามใต้ที่มีการขยายโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็ว โดยประเมินราคาที่เหมาะสมในปี 2561 ที่ 30 บาท
