อันดับที่ 1 PTTEP หุ้นวิ่งขานรับราคาน้ำมันพุ่ง ไตรมาส4/60 กำไรฟื้นตัวแรง
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า โดยแหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรมน้ำมัน เปิดเผยว่า บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ราคาหุ้นช่วงเช้าปรับตัวขึ้นที่ 104 บาทเพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 2.46% ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นล่าสุดเฉลี่ยที่ระดับ 61 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกในระดับ 65 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก หรือ โอเปกลดกำลังการผลิตน้ำมัน เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว รวมถึงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงจะเป็นปัจจัยหนุนการทำกำไรเติบโตเพิ่มขึ้นของ PTTEP ได้อย่างมีนัยสำคัญ ด้านนักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า ประเมินว่าในไตรมาส4/2560 PTTEP จะกลับมาพลิกกำไรหลังจากไตรมาส3/2560 ขาดทุนสุทธิ 8,681 ล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นปัจจุบันเฉลี่ยที่ 53 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะเดียวกันไตรมาส4จะไม่มีผลกระทบจากการตั้งด้อยค่าจากการชะลอการลงทุนขั้นสุดท้ายในโครงการมาเรียนา ออยล์ แซนด์ ประเทศแคนาดา ทั้งนี้ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินภาพรวมทั้งปี 2560 ว่าจะมีกำไรสุทธิ 20,000 ล้านบาท ขณะในปี 2561 คาดว่าราคาน้ำมันจะยังสูงเฉลี่ยในระดับ 55 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ประเมินกำไรสุทธิ 36,000 ล้านบาท พร้อมกับแนะนำซื้อที่ราคาเป้าหมาย 108 บาทต่อหุ้น
อันดับที่ 2 COMAN ตั้งเป้าปีจอ รายได้โต 20% พร้อมเล็งปิดดีลเท็คโอเวอร์ 1 ราย ภายในปีนี้
ผู้สื่อข่าว”มิติหุ้น”รายงานว่า บมจ. โคแมนชี่ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ COMAN โดย นายสมบูรณ์ ศุขีวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี2561 จะเติบโต 20% จากปี2560 ที่มั่นใจเป็นไปตามเป้าหมาย20% โดยปีก่อนมีรายได้ 133.57 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหนุนจากภาพรวมกลุ่มการท่องเที่ยวและธุรกิจประเภทโรงแรมมีการเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก จึงทำให้ผู้ประกอบการหลายรายมีการลงทุน ซึ่งส่งผลบวกต่อบริษัทให้ได้รับดีลใหม่ๆเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังรับรู้รายได้เต็มปีจาก บริษัท ซินเนเจอร์ เทคโนโลยี จำกัด ที่ได้เข้าซื้อกิจการมาในช่วงไตรมาส 3/2560 โดยจากในอดีตแล้วนั้น บริษัท ซินเนเจอร์ เทคโนโลยี จำกัด สามารถสร้างรายได้เฉลี่ยราว 50 ล้านบาทต่อปี ซึ่งในขณะนี้ก็สามารถสร้างกำไรสุทธิได้อย่างแข็งแกร่งพร้อมกันนี้บริษัทจะอยู่ระหว่างศึกษาแผนเข้าซื้อกิจการ 1 ราย ภายในปีนี้ โดยประกอบธุรกิจ ประเภทท่องเที่ยวและระบบจองตั๋วโดยสาร โดยจะใช้งบลงทุนไม่เกิน 200 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินจากการระดมทุนหุ้นIPO รวมถึงเงินสดในมือที่มีอยู่ จึงมั่นใจว่าเพียงพอสำหรับการลงทุนที่จะเกิดขึ้นต่อไปอนาคต
อันดับที่ 3 กูรูแนะซื้อกลุ่มน้ำมัน-โรงกลั่นรับราคาน้ำมันพุ่ง 65 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายว่า ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 65 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลจากปี 2560 เฉลี่ยในระดับ 55-60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เป็นปัจจัยให้ราคาหุ้นกลุ่มน้ำมัน-โรงกลั่นปรับตัวเพิ่มขึ้นมา โดยนายศักดิ์นรินทร์ ศศานนท์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า จำกัด (มหาชน) ประเมินราคาน้ำมันดิบดูไบในปี 2561คาดว่าจะเฉลี่ยในระดับ 65-70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากกลุ่มโอเปกลดกำลังการผลิตเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ซึ่งจะอานิสงส์ต่อกลุ่มนี้ที่จะมีกำไรจากสต็อกน้ำมันหนุนกำไรเติบโต โดยแนะนำซื้อหุ้น TOP ที่ราคาเป้าหมาย 125 บาท PTT 496 บาท PTTGC 105 บาท และ SPRC 20.60 บาท
อันดับที่ 4 ESSO วิ่งฉิวรับราคาน้ำมันปรับตัวสูง กูรูชี้หนุนผลประกอบการโตต่อเนื่อง โบรก
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO ปรับตัวเพิ่มขึ้นมา ในระดับ 18.50 บาทเพิ่มขึ้น 0.90 บาท หรือ 5.11% นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ประเมินว่ามาจากปัจจัยที่ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งล่าสุดราคาเฉลี่ยที่ระดับ 65-68 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล นอกจากนี้แล้ว ESSO ยังคงมีกำไรเติบโตได้อย่างต่อเนื่องโดยประเมินกำไรสุทธิปี 2561 จะเติบโตเพิ่มขึ้น 6% หรือ 6,800 ล้านบาทจากปี 2560คาดว่ามีกำไรสุทธิ 6,400 ล้านบาท และคาดว่าจะให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับ 4-5% เป็นปัจจัยหนึ่งที่ดึงดูดให้นักลงทุนซื้อหุ้นESSO ทั้งนี้ESSOยังเป็นหุ้นที่มี P/E ต่ำสุดในกลุ่มน้ำมันที่ 8.54 เท่า ประเมินราคาด้านเทคนิคแนวรับไว้ที่ 18 บาท ส่วนแนวต้านที่ 19 บาท และแนวต้านถัดไปที่ 20 บาท
อันดับที่ 5 VCOM รุกเพิ่มสัดส่วนรายได้งานบริการมาร์จิ้นสูง ตั้งเป้าโตก้าวกระโดดใน 2-3 ปี
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.วินท์คอม เทคโนโลยี หรือ VCOM ราคาหุ้นการซื้อขายภาคเช้าปรับตัวขึ้นสูงสุด 3.62 บาท ล่าสุด (11.15 น.) ราคาอยู่ที่ 3.44 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ +6.17% ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 133.64 ล้านบาท นางทรงศรี ศรีรุ่งเรืองจิต กรรมการผู้จัดการ VCOM เปิดเผยว่า ภาพรวมแนวโน้มอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ใน2561 ยังมีแนวโน้มอัตราเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากความต้องการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในอุตสาหกรรมหลักต่างๆ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากแผนนโยบาย Digital Economy Thailand 4.0 ที่แต่ละองค์กรต้องนำเอาเทคโนโลยีดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ เพื่อให้เข้ากับกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม ที่จะมีผลต่อการพัฒนาประเทศในอนาคต ขณะที่สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ จากการขยายงานขายในกลุ่มประเทศ CLM คาดว่ารายได้จะขยับแตะที่ระดับ 20-25% ในปี 2561 จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 10% ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับงานจากธนาคารพาณิชย์เอกชนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ของประเทศเมียนมา เป็นผู้ดำเนินการในโครงการ “Core Banking and Internet Banking System Hardware and Software Upgrade and Migration” ซึ่งมีมูลค่าไทยราวกว่า 200 ล้านบาท
www.mitihoon.com