มิติหุ้น – เอไอเอ ประเทศไทย ออกตัวแรงตั้งแต่ต้นปี อัพเกรดหลักสูตรเข้ม “โปรแกรม AIA FA 2.0” ปั้นตัวแทนมืออาชีพแบบเต็มเวลา หวังเป็นช่องทางหลักโดกยเบี้ยเข้าพอร์ต
นายบิล ไลน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาค กลุ่มบริษัท เอไอเอ เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีโอกาสในการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตอยู่ค่อนข้างสูง แต่ในขณะเดียวกันก็ถือเป็นตลาดที่มีความท้าทายอย่างมากด้วยเช่นกัน เนื่องจากผู้บริโภคในไทยส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการเลือกซื้อประกันชีวิต ที่แตกต่างจากผู้บริโภคในประเทศอื่นๆ ซึ่งตัวแทนประกันชีวิตนับเป็นผู้ที่มีบทบาทอย่างมากต่อการตัดสินใจเลือกซื้อประกันชีวิตของลูกค้าคนไทย และยังถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของธุรกิจเอไอเอ ประเทศไทย ให้เติบโตอย่างมั่นคง และสามารถครองตำแหน่งผู้นำในตลาดมาได้อย่างยาวนาน
“ไทยเป็นตลาดใหญ่ที่สุดที่ผมดูแลอยู่ จากทั้งหมด 6 ประเทศ ได้แก่ เกาหลี ออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์ อินเดีย ศรีลังกา และไทย ซึ่งประเทศไทยดังนั้น ผมมั่นใจว่าการที่เราลงทุนกับการพัฒนาคน โดยเฉพาะกับโปรแกรม AIA Financial Advisor (AIA FA) เพื่อต้องการยกระดับศักยภาพของตัวแทนประกันชีวิต ให้ก้าวสู่เป็น ‘ที่ปรึกษาด้านการประกันชีวิตและการเงิน’ จะสามารถช่วยสนับสนุนทั้งธุรกิจของเอไอเอเอง รวมทั้งระบบอุตสาหกรรมประกันชีวิตในไทย ให้เติบโตต่อไปอย่างแน่นอน” นายบิลกล่าว
ด้านนายตัน ฮาค เลห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปี 2561 นี้ เป็นปีพิเศษที่เอไอเอ ประเทศไทย จะครบรอบ 80 ปี ซึ่งเอไอเอ ประเทศไทยยังคงให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ด้านตัวแทนซึ่งเป็นช่องทางขายหลัก และโปรแกรม AIA FA ถือเป็นกลยุทธ์หลักที่เอไอเอใช้ในการสรรหาตัวแทนมืออาชีพ ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่พร้อมจะเติบโตไปกับเอไอเอ
นอกจากนี้เอไอเอเชื่อว่า หลักสูตรโปรแกรม AIA FA จะช่วยเพิ่มอัตราการถือครองกรมธรรม์ของคนไทยได้มากขึ้น และสำหรับเอไอเอในปีที่ผ่านมาได้มีจำนวนลูกค้ากลุ่มไฮเน็ตเวิร์คหรือกลุ่มทีมีรายได้สูงเพิ่มขึ้น แม้จะเป็นสัดส่วนที่ไม่สูงมาก แต่มองว่ายังมีโอกาสในการเติบโตได้ในอนาคต
ขณะที่นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารตัวแทนประกันชีวิต เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้เอไอเอได้มีการปรับหลักสูตรใหม่เป็น ‘AIA FA 2.0’ โดยโปรแกรมใหม่นี้จะมีความเข้มข้นขึ้น ทั้งในด้านระยะเวลาการอบรมและการเตรียมความพร้อมก่อนออกตลาดจริง ซึ่งจะได้ผู้บริหารหน่วยที่มีประสบการณ์มาช่วยดูแล และโค้ชตัวแทน AIA FA อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งจะมีการฝึกอบรมผ่าน Premier Academy การให้องค์ความรู้ผ่านรุ่นพี่ MDRT ที่จะคอยให้คำปรึกษาแก่รุ่นน้อง พร้อมกับการพัฒนาระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการสนับสนุนการขายของตัวแทน
สำหรับโปรแกรม AIA FA 2.0 เป็นการสร้างตัวแทนมืออาชีพ หรือที่ปรึกษาทางการเงินแบบเต็มเวลา ทั้งนี้จากข้อมูลสถิติ พบว่าตัวแทนที่มาจากโปรแกรม AIA FA 2.0 มีศักยภาพที่ต่างไปจากคชตัวแทนทั่วไป คือ มีการเพิ่มจำนวนรายของลูกค้าได้มากกว่าถึง 15% มีเบี้ยเฉลี่ยต่อรายสูงกว่าตัวแทนทั่วไปราว 12% มีอัตราการทำงานที่มากกว่าตัวแทนทั่วไปเกือบ 50%
ทั้งนี้ในปัจจุบัน เอไอเอ ประเทศไทย มีตัวแทนราว 6 หมื่นราย เป็นตัวแทนที่มีผลงานต่อเนื่องหรือแอคทีฟราว 70% ซึ่งในจำนวนนี้เป็นตัวแทน AIA FA 2.0 จำนวน 7,000 ราย และในปีที่ผ่านมาสามารถสร้างเบี้ยรับใหม่เป็นสัดส่วนราว 20% จากเบี้ยรับใหม่โดยรวมที่มาจากทุกช่องทางของเอไอเอ