อันดับที่ 1 THE ลั่นQ1/61ออเดอร์ล้นมือ-ซุ่มแตกไลน์อสังหา-พลังงาน
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ในปี 2561 อุตสาหกรรมเหล็กจะเติบโตอย่างชัดเจน ส่วนราคาเหล็กจะค่อยๆปรับตัวเพิ่มขึ้นตลอดทั้งปี โดย “นายบุญชัย จิระพงษ์ตระกูล” ประธานกรรมการบริหาร บมจ. เดอะ สตีล หรือ THE เผย แค่ต้นปีนี้ราคาเหล็กขยับตัวเพิ่มขึ้นแล้ว 5% ซึ่งราคาเหล็กม้วนขึ้นมาแตะที่ระดับ 21-22 บาทต่อกิโลกรัม และเชื่อมั่นว่าราคาเหล็กจะยังปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาเหล็กโลกด้วย ขณะที่ความต้องการเหล็กในประเทศมีโอกาสเพิ่มขึ้นเป็น “เท่าตัว” จากปริมาณก่อสร้างที่จะเพิ่มขึ้นตามบิ๊กโปรเจ๊กต์ภาครัฐ ส่วนความคืบหน้าการเข้าซื้อกิจการ (เทกโอเวอร์) โรงงานเหล็กนั้น คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในเร็วๆนี้ พร้อมกันนี้บริษัทยังได้ศึกษาเทกโอเวอร์โรงงานเหล็กแห่งใหม่เพิ่มเติมด้วย รวมถึงการพิจารณาสร้างโรงงานเอง ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในระยะถัดไป นายบุญชัย กล่าวเสริมว่า บริษัทยังได้ศึกษาการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ อาทิ “ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์” ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตร และ ธุรกิจพลังงานทดแทน ซึ่งทางบริษัทจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าพิจารณาในที่ประชุมบอร์ดในลำดับต่อไป
อันดับที่ 2 ORI ฟันธงรายได้ปีนี้พุ่ง 1.4 หมื่นลบ. รุกเปิดตัว 11 โครงการใหม่ มูลค่า 2.5 หมื่นลบ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI โดยนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะ 14,000 ล้านบาท จากปี 2559 ที่มั่นใจเข้าเป้า 9,000 ล้านบาท โดยมาจากยอดขายรอโอน (Backlog) ที่มีอยู่กว่า 29,000 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ภายในปีนี้ประมาณ 10,148 ล้านบาท และในส่วนที่เหลือจะรับรู้ไปจนถึงปี 2563 โดยรายละเอียด Backlog แบ่งเป็น KNIGHTSBRIDGE 37%, PARK 24 เฟส 2 อีก 22%, PARK 24 เฟส 1 อีก 15%, NOTTING HILL 13%, Kensington 12% และ อื่นๆ 1% ด้าน บล. กรุงศรี แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาพื้นฐาน 25 บาท โดยประเมินว่า ปี 2018 เตรียมเปิดโครงการขนาดใหญ่ระดับ 1 หมื่นล้านบาท ภายใต้แบรนด์ Park รวมถึงโครงการ Mixed used ที่ซอยสุขุมวิท 24 มูลค่า 3 พันล้านบาทหนุนรายได้เติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาพื้นฐาน 24.90 บาท โดยมองว่าผลประกอบการของ ORI จะเติบโตได้โดดเด่นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว จากการใช้กลยุทธ์การหาโอกาสธุรกิจใหม่ๆ สำหรับพัฒนาคอนโดฯที่ใกล้รถไฟฟ้าส่วนขยายที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง
อันดับที่ 3 UBIS เร่งปั๊มรายได้ มั่่นใจปี 61 โตทะยาน 10%
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ราคาหุ้น บมจ.ยูบิส (เอเชีย) หรือ UBIS การซื้อขายภาคเช้าปรับตัวขึ้นสูงสุด 5.55 บาท ล่าสุด (11.00 น.) ราคาอยู่ที่ 5.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ +1.85% นายฉัฐภูมิ ขันติวิริยะ ประธานกรรมการบริหาร UBIS เผยว่า ทิศทางธุรกิจในปี 2561 บริษัทตั้งเป้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 10% โดยมีสัดส่วนยอดขายจากตลาดต่างประเทศเป็นหลักประมาณ 60% และยอดขายในประเทศ 40% ซึ่งประเมินว่าทิศทางตลาดต่างประเทศเริ่มมีกำลังซื้อดีขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งมีลูกค้าใหม่จากตะวันออกกลางและแถบอเมริกาใต้เพิ่มเติม ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมรับมือกับอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความผันผวนในช่วงที่ผ่านมา โดยมีแผนปรับเปลี่ยนการชำระรับชำระเงินของลูกค้าให้เป็นสกุลเงินที่มีความเหมาะสม เช่น จากเดิมเคยรับชำระเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณารับชำระเป็นเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเพื่อช่วยลดความผันผวน ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นปี 61 จะรักษาให้อยู่ที่ระดับ 34-35% หากราคาวัตถุดิบไม่ได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นไม่ว่าจะเป็นยางหรือน้ำมัน
อันดับที่ 4 UV ปี61 ตั้งเป้ารายได้ 2.3-2.5 หมื่นล้าน ลุยพัฒนา 4 โครงการกว่าหมื่นล้านบาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV โดยแหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรมเปิดเผยว่า UV วางเป้าภาพรวมรายได้(ต.ค.60-ก.ย.61) เติบโต 23,000 – 25,000 ล้านบาท เนื่องจากมียอดขายรอโอนอยู่ราว 4,500 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม ยูดีไลท์ 600 ล้านบาท และโครงการบ้านเดียว-ทาวน์โฮมของโกล์เด้นแลนด์ราว 3,900 ล้านบาท พร้อมกันนี้ในปี 2561 UV มีแผนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ยู ดีไลท์ 4 โครงการตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ และสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย มูลค่าโครงการกว่า 11,000 ล้านบาท พร้อมกับพัฒนาโครงการบ้านเดียว-ทาวน์โฮม 34 โครงการของโกล์เด้นแลนด์ มูลค่ากว่า 39,000 ล้านบาทโดย UV มีสัดส่วนการถือหุ้น 39.28% และมีโครงการที่พัฒนาแล้วรอขายราว3,500-4,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทยังรับรู้รายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายสังกะสีอ๊อกไซด์มากกว่า 1,500 ล้านบาทต่อปีอีกด้วยจึงมั่นว่ารายได้จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย นอกจากนี้แล้วในปี 2561 บริษัทยังเตรียมงบซื้อที่ดิน 2,000 ล้านบาทโดยจะเน้นที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าสำหรับพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม
อันดับที่ 5 EIC ตั้งเป้ายอดขายปีนี้โต 20% เตรียมรับรู้กำไรป้ายโฆษณา30%ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บริษัท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บริษัท อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ EIC ผู้ประกอบการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งเป้าในปี 2561 จะมียอดขายชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เติบโตเพิ่มขึ้น 20% จากปี2560คาดว่ามียอดขายในระดับ 200 ล้านบาท เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นส่งผลให้มีกำลังสั่งซื้อเพิ่มขึ้น ขณะยอดขายในประเทศจีนและฮ่องกงก็เติบโตอย่างต่อเนื่องโดยปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขายในต่างประเทศ 60% ในไทย40% แหล่งข่าวกล่าวว่า ในปี 2561ผลประกอบการยังได้รับปัจจัยหนุนจากบริษัท ส.ธนามีเดีย จำกัด เป็นบริษัทให้บริการป้ายโฆษณาซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ EIC ที่ได้ซื้อหุ้นมา 100% เมื่อปีที่แล้วโดยมีโครงป้ายไว้ให้บริการอยู่ 60 ป้าย และให้เช่าแล้วกว่า 50 ป้ายคาดว่าจะสร้างกำไรสุทธิให้ปีละ30% และรับรู้กำไรเต็มปีในปีนี้
www.mitihoon.com
