ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ทาง บล. มีมุมมองสำหรับหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง “เป็นบวก” เนื่องด้วยภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีต่อเนื่อง สอดคล้องกับงานภาครัฐบาลที่ออกมาค่อนข้างมาก โดยเฉพาะเมกะโปรเจ็กต์ที่มีความชัดเจนขึ้น ทำให้ภาคเอกชนหลายรายมีการลงทุนเพิ่มอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ยังสนับสนุนในการลงทุนได้ดี
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มราคาวัสดุก่อสร้างในปี 2561 อาจจะปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่เชื่อว่าทางผู้ปฃระกอบการรับเหมาก่อสร้างจะรับมือได้ ซึ่งส่วนใหญ่ได้ซื้อวัสดุเก็บสต็อกไว้แล้ว เพื่อรับงานได้ในระยะสั้นถึงยาว จึงไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการโดยรวม
สำหรับหุ้นเด่นที่มีแนวโน้มได้รับงานจำนวนมากและผลประกอบการออกมาโดดเด่น ได้แก่ บมจ. ช.การช่าง หรือ CK โดยมีราคาเป้าหมาย 35 บาท และ บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น หรือ STEC โดยมีราคาเป้าหมาย 30 บาท
ด้าน นักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เผยว่า บริษัทมองว่าหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างในปี 2561 จะสามารถสร้างการเติบโตได้ดี เนื่องด้วยภาครัฐยังคงเดินตามแผนงานประมูลต่างๆ เพื่อเร่งให้เป็นรูปธรรมต่อเนื่อง เบื้องต้นคาดจะมีงานออกมาประมูลไม่ต่ำกว่า 2-3 แสนล้านบาท เช่น งานรถไฟทางคู่เฟส 1 งานอาณัติสัญญาณ ตามมาด้วยรถไฟทางคู่เฟส 2 รถไฟฟ้าสายสีแดง ส้ม และม่วงส่วนต่อขยาย รวมถึงรถไฟความเร็วสูง เป็นต้น
ทั้งนี้ แนะนำลงทุนหุ้นรับเหมาขนาดใหญ่ เนื่องจากมีโอกาสได้รับงานใหม่ได้อีกค่อนข้างมาก ได้แก่ CK โดยมีราคาเป้าหมาย 38 บาท STEC โดยมีราคาเป้าหมาย 31 บาท และ บมจ. ซีฟโก้ หรือ SEAFCO โดยมีราคาเป้าหมาย 10.60 บาท
ในส่วนของ บลจ.ทิสโก้ เผยว่า ภายในปีนี้ หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างจะได้รับอานิสงส์บวกโดยตรง เนื่องจาก รัฐบาลจะเปิดประมูลงานเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากก่อนที่การเลือกตั้ง จะทำให้ผลประกอบการกลุ่มรับเหมาก่อสร้างจะเพิ่มขึ้นในปี 2561 จากโครงการที่เซ็นสัญญาในปีนี้ที่มีงานในมือที่มีอยู่ระดับที่สูง และมีงานใหม่จะหนุนรายได้ในระยะยาว
โดยหุ้นเด่นได้แก่ บมจ. ไพลอน หรือ PYLON ราคาเป้าหมาย 17.50บาท และ STEC ราคาเป้าหมาย 31 บาท และ SEAFCO ราคาเป้าหมาย 10.30 บาท
www.mitihoon.com
