มิติหุ้น – “กลุ่มแบงก์” ลุ้นปี 2561 ฟื้นตัวแกร่ง รับแรงหนุนการลงทุนดีขึ้น ส่งผลบวกต่อการขยายตัวสินเชื่อ ประเมินกำไรปี 2561 โตราว 10% ขณะที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/60 ยังชะลอตัวจากการตั้งสำรองหนี้ระดับสูง มองผลงานแบงก์เล็กอย่าง TISCO, TCAP, KKP โดดเด่นกว่าแบงก์ใหญ่
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปี 2560 มีแนวโน้มชะลอตัวจากแรงกดดันการตั้งสำรองที่สูงขึ้น นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. อาร์เอชบี (ประเทศไทย) ระบุว่า ภาพรวมกำไรสุทธิของกลุ่มแบงก์ในปี 2560 น่าจะชะลอตัวลงเล็กน้อยจากปีก่อน เบื้องต้นคาดกำไรสุทธิของทั้งกลุ่มไว้ที่ 1.73 แสนล้านบาท ลดลง 3% จากปีก่อนที่กำไรสุทธิ 1.77 แสนล้านบาท จากผลกระทบการตั้งสำรองหนี้ที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างมากในไตรมาส 2/2560
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการในปี 2561 จะกลับมาเติบโต 10% และสินเชื่อเติบโต 4.5% รับผลบวกจากการลงทุนของภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะการลงทุนภาคเอกชนที่มีสัญญาณฟื้นตัว หลังจากภาคส่งออกของไทยเติบโตสูง รวมถึงภาคอุปโภคบริโภคในประเทศฟื้นตัว การเติบโตของภาคท่องเที่ยว
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บมจ. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า แนวโน้มผลประกอบการของกลุ่มแบงก์พาณิชย์ในไตรมาส 4/2560 ยังคงชะลอตัว โดยคาดกำไรไตรมาส 4/2560 ติดลบ 8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และติดลบ 1% จากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากการปล่อยสินเชื่อที่ชะลอตัว ส่วนต่างอัตราดอกบี้ยยังอ่อนแอ และการตั้งสำรองที่ยังอยู่ในระดับสูง คาดว่าผลประกอบการแบงก์ขนาดเล็กอย่าง TCAP, TISCO, KKP จะทำได้ดีกว่าแบงก์ใหญ่ เนื่องจากคุณภาพของลูกหนี้ที่ดีกว่าและการตั้งสำรองที่ต่ำกว่า
ทั้งนี้ ตลาดมีมุมมองเชิงบวกสำหรับหุ้นกลุ่มแบงก์ ซึ่งสะท้อนจากราคาหุ้นกลุ่มแบงก์เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 16% ในปี 2560 แต่ในแง่ของแนวโน้มกำไร อาจจะไม่ได้ดีอย่างที่ตลาดคาด เนื่องจาก NIM ที่ลดลง รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเติบโตในอัตราชะลอตัว และรวมถึงการตั้งสำรองที่อยู่ในระดับสูง หากผลประกอบการไตรมาส 4/2560 ใกล้เคียงกับที่คาดไว้ว่าจะออกมาต่ำ เชื่อว่าตลาดอาจจะลดความคาดหวังต่อกลุ่มแบงก์ลง จึงคงมุมมองเป็นกลางสำหรับกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นที่แนะนำคือ TISCO และ BBL เนื่องจากกำไรได้รับการสนับสนุนจากการเข้าซื้อกิจการและพันธมิตร
www.mitihoon.com
