นักวิเคราะห์แนะนำซื้อ CPT ชี้เป้าราคาพื้นฐาน 2.57 บาท

198

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส คาดการณ์อัตราการเติบโตกำไรหลักงวดปี 60 และปี 61 เป็น 24%/10% ตามลำดับ คือ 140 และ 154 ล้านบาท แม้ว่ารายได้หลักรวมปี 60 เพิ่มขึ้นไม่มากนักเป็น 4% เป็น 1,273 ล้านบาท ขณะที่ y-o-y เป็น 1,227 ล้านบาท แต่อัตรากำไรขั้นต้นรวมเพิ่มขึ้นดีเป็น 28% เทียบ y-o-y ที่ 24% ปัจจัยหลักที่ทำให้อัตราการเติบโตกำไรสูงกว่ารายได้ เพราะปี 60 มีรายได้ในส่วนการขายเป็นสัดส่วนที่มากกว่าเทียบกับรายได้รับเหมา-ติดตั้งซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 28% และ 24% ตามลำดับ ด้านปี 61 คาดว่าอัตราการเติบโตรายได้สูงขึ้นเป็น 10% เนื่องจากจะมีโรงงานใหม่ที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือน ส.ค.61 และดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ใน 4Q61 นี้ และผลิตตู้ควบคุมไฟฟ้าเกรดพรีเมี่ยม สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรมได้มากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังให้อัตรากำไรที่สูงด้วย

เห็นว่ามีโอกาสสูงที่บริษัทจะจ่ายปันผลได้มากในงวดปี 60 เนื่องจากมีแผนใช้เงินลงทุนขณะนี้รวมเป็น 270 ล้านบาท แบ่งเป็น 1) เพื่อซื้อที่ดิน ก่อสร้างโรงงานใหม่และซื้อเครื่องจักร 200 ล้านบาท และ 2) เพื่อขยายตลาดไปต่างประเทศ 70 ล้านบาท ขณะที่คาดว่า ณ สิ้นปี 60 บริษัทจะมีกำไรสะสมอยู่ที่ 230 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีฐานะการเงินที่ดีมาก เป็นเงินสดสุทธิ (net cash position) คือมีเงินสดมากกว่าเงินกู้ (ณ สิ้นงวด 3Q60 มีเงินกู้เพียง 36 ล้านบาท แต่มีเงินสดถึง 107 ล้านบาท)

บริษัทมีงานในมือ (Backlog) ที่สูง ณ สิ้น 3Q60 มีงานที่รอส่งมอบในงวด 4Q60 ที่ 440 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 86% จากประมาณการรายได้งวด 4Q60 และในงวดสิ้นปี 60 Backlog เป็น 500 ล้านบาท ที่จะส่งมอบในปี 61 คิดเป็นสัดส่วน 36% จากประมาณการรายได้งวดปี 61 แล้ว สำหรับปี 61 นี้ เตรียมเข้าประมูลงานอีก 2.5 พันล้านบาท ประกอบด้วยงานโรงงานน้ำตาลที่เป็นกลุ่มลูกค้าเดิมและฐานลูกค้าใหม่คือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคซึ่งจะเข้าประมูลงานติดตั้งและปรับปรุงระบบตู้ควบคุมไฟฟ้าในสถานีย่อย ทั้งนี้บริษัทคาดหวังว่าจะได้งานราว 60-70%

แนะนำ: ซื้อ นอกจากปัจจัยบวกข้างต้น คาดว่าในปี 62 และ 63 รายได้จะเติบโตสูงเมื่อสามารถใช้กำลังการผลิตโรงงานใหม่ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเป็นการผลิตเต็มปี โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 63 ไว้ถึง 3 พันล้านบาท คิดเป็นประมาณเท่าตัวจากปี 61 นอกจากนี้จะเข้าไปประมูลการขายสินค้าให้กับโครงการ SPP และโครงการบริหารจัดการน้ำด้วย ในแง่การประเมินมูลค่าหุ้นพบว่า ขณะนี้ซื้อขายที่ P/E ปี 61 ที่ 12.7 เท่าเทียบกับกลุ่มที่ 19.0 เท่า หากกำหนด Forward P/E ที่ 15 เท่า จะได้ราคาพื้นฐานที่ 2.57 บาท ยังมีส่วนเพิ่มได้อีก 18% และรับปันผลที่สูงเป็นพิเศษสำหรับงวดปี 60 ด้านปัจจัยลบคือ สภาพคล่องการซื้อขายหุ้น (Free Float) ไม่สูงนักเป็น 28.1%