มิติหุ้น – THE จ่อปิดดีลเทคโอเวอร์ 2 ดีล ในธุรกิจเหล็กและพลังงานทดแทน เดินหน้าเจรจาเต็มสูบ มั่นใจเงินทุนหนาเพียงพอ พร้อมส่งซิกผลงานปีนี้ไม่ธรรมดา มีลุ้นขยับทุบสถิติตามราคาเหล็กม้วนดำพุ่ง แย้มมีแผนแตกไลน์รุกอสังหา ภายใน 2 ปีได้เห็น
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บริษัท เดอะ สตีล จำกัด (มหาชน) THE โดย นายบุญชัย จิระพงษ์ตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทคาดภายในปีนี้น่าจะปิดดีลซื้อกิจการ (M&A) ได้ 2 ดีล โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ประกอบการธุรกิจเหล็กที่มีโรงงานผลิต 2 ราย มีกำลังการผลิตประมาณ 200-300 ตันต่อปี ซึ่งบริษัทจะเข้าซื้อกิจการเพียง 1 รายเท่านั้น
โดยในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการเจรจากับธนาคารพาณิชย์ เนื่องด้วย ผู้ประกอบการรายดังกล่าวมีปัญหาทางด้านการเงิน จึงทำให้ต้องนำสินทรัพย์ไปจำนองต่อธนาคาร ปัจจุบันถือว่าการเจรจาใกล้เสร็จสิ้น และจะสามารถปิดดีลได้ช่วงไตรมาส 1/2561-2/2561 เบื้องต้นคาดใช้เงินไม่เกิน 600 ล้านบาท
เร่งเครื่องเจรจาซื้อกิจการ
ส่วนอีกหนึ่งดีลที่อยู่ระหว่างการเจรจาเช่นกันนั้น จะเป็นธุรกิจด้านพลังงานทดแทน ที่ขณะนี้มีการศึกษาและเจรจาอยู่กับผู้ประกอบการ 2 รายด้วยกัน แต่ยังไม่สามารถระบุรายละเอียดได้ เนื่องด้วยต้องมีการประชุมบอร์ดอีกครั้ง แต่คาดว่าจะสามารถจบดีลได้ภายในปีนี้ ทั้งนี้บริษัทมั่นใจว่ามีเงินทุนเพียงพอสำหรับการลงทุน ซึ่งปัจจุบันมีทั้งเงินสดในมือ และกำไรจากการดำเนินงาน รวมถึงยีงมีความสามารถในการกู้เงินจากสถาบันการเงินได้อีกมาก
นอกจากนี้ จากภาพรวมการดำเนินงานของบริษัทที่ยังขยายตัวได้ดี ทำให้เชื่อว่าผลการดำเนินงานในปี 2561 มีโอกาสที่จะทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ หลังจากในปี 2559 ที่บริษัทเคยทำจุดสูงสุดไว้ที่กว่า 545 ล้านบาท โดยในปีนี้มีปัจจัยหนุนจากราคาเหล็กม้วนดำที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก มาอยู่ที่ 21-21.50 บาทต่อกิโลกรัม จากปีก่อนที่ราคาเฉลี่ยอยู่ราว 18 บาทต่อกิโลกรัม และมองในระยะต่อไป แนวโน้มราคาเหล็กคาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้นไปจนถึงระดับ 23 บาท ตามความต้องการเหล็กที่เพิ่มขึ้น
แย้มแผนแตกไลน์ลุยอสังหา
“บริษัทได้สต๊อกเหล็กเป็นปริมาณหลายแสนตันในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งราคาเหล็กยังไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเท่ากับปัจจุบัน จึงน่าจะทำให้มาร์จิ้นในการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นด้วย อีกทั้งบริษัทยังคาดว่า ปริมาณการขายเหล็กปีนี้จะอยู่ราว 1.2แสนตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 9 แสนตัน” นายบุญชัยกล่าว
นายบุญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทมีแผนแตกไลน์ธุรกิจไปยังอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันมีที่ดินรองรับแล้ว ตั้งอยู่ในพื้นที่ จังหวัดมหาสารคาม เนื้อที่ 20 ไร่ เบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ ในช่วง 2 ปีจากนี้ เพื่อให้ธุรกิจมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น และเพื่อกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจต่อไป
ด้านนายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมเหล็กในปีนี้เติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเหล้กประเภทรัดร้อน ที่ราคาเหล็กในจีนที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ เนื่องด้วย ภาครัฐจีนมีนโยบายควบคุม การผลิต จึงทำให้การผลิตลดลง แต่ความต้องการยังเพิ่มขึ้น ซึ่งโดยรวมแล้วเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจเหล้กเป็นอย่างมาก