อันดับที่ 1 SUPER ลุย COD ปีนี้กว่า100 MWอัดงบลงทุน 3.1 หมื่นลบ.
สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า โดยนายจอมทรัพย์ โลจายะ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ซุปเปอร์บล๊อก หรือ SUPER เปิดเผยว่า ในปี 2561 นั้นบริษัทเตรียมงบลงทุนราว 31,000 ล้านบาท สำหรับการลงทุนในโครงการพลังงานลมที่ประเทศเวียดนามเฟสแรก 340 MW คาดใช่เงินลงทุนราว 30,000 ล้านบาท คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้าง 14-18 เดือน หลังจากนั้นก็จะดำเนินการก่อสร้างโครงการเฟส2 ขนาดกำลังการผลิต 360 MW โดยมีอัตรารับซื้อไฟฟ้าที่ 9.80 US เซ็นต่อหน่วย และลงทุนโครงการ SPP ไฮบริดเฟิร์ม ที่บริษัทชนะการประมูล 32 MW อัตรารับซื้อไฟฟ้า 2.80 บาทต่อหน่วย ขณะเดียวกันเดือนกุมภาพันธ์นี้บริษัทเตรียมจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมขนาดกำลังการผลิต 30 MW ซึ่งจากแผนการลงทุนในปีนี้และการดำเนินการ COD ขยะอุตสาหกรรมนั้นคาดว่า SUPER จะสามารถ COD เพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 100 เมกะวัตต์จากปัจจุบันมีอยู่ 800 MW คาดว่าจะส่งผลให้รายได้ปีนี้เติบโตประมาณ 25%
อันดับที่ 2 RMLทุ่มงบ 2 พันลบ.ซื้อที่ดินเพิ่ม-ผนึกพันธมิตรรุกธุรกิจอาหาร
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไรมอน แลนด์ หรือ RML โดยนายเอเดรียน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2561 บริษัทตั้งงบซื้อที่ดินปีนี้ไว้ราว 2,000 ล้านบาท แบ่งลงทุนในธุรกิจอื่น ๆ ประมาณ 10-50 ล้านบาท โดยคาดปีนี้จะมีรายได้จากยอดโอนคอนโดฯเพิ่ม 1 โครงการ ราว 500 ล้านบาท จากปีก่อนที่รับรู้รายได้ราว 3,000 ล้านบาท ซึ่งคาดปี 2562 จะรับรู้รายได้เพิ่มเป็นกว่า 2,000 ล้านบาท จากการทยอยโอนคอนโดฯ ใหม่ 4 โครงการ ทั้งนี้ ในปี 2560 บริษัทได้ซื้อที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการคอนโดฯ ระดับลักชัวรีส์ ในทำเลสุขุวิท และเขตสาธร รวม 2 แปลง ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดตัวโครงการใหม่อย่างน้อย 2 โครงการในช่วงไตรมาส 3-4 ของปีนี้ โดยทั้ง 2 โครงการ มีมูลค่ารวมกว่า 8,500 ล้านบาท และคาดว่าจะมีจำนวนยูนิตประมาณ 440 ยูนิต นอกจากนี้ บริษัทได้ขยายการลงทุนเข้าสู่ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก โดยจับมือร่วมกับกลุ่มร้านอาหาร “บ้านหญิง กรุ๊ป” นำอาหารไทยไปเปิดตลาดที่สิงคโปร์ ประเดิมเปิด 3 ร้านแรกในปี 2561 นี้ และมีแผนเปิดร้านอาหารเพิ่มครบ 10-15 สาขาในสิงคโปร์-กัมพูชา-เวียดนาม-จีน ภายในปี 2563 โดยตั้งเป้าจะมีรายได้จากธุรกิจอาหารเป็น 1,000 ล้านบาท ในปี 2565 จากปีนี้ราว 100 ล้านบาท
อันดับที่ 3 PYLONราคาขานรับเสาเข็มรถไฟฟ้าสายสีเหลือง คิว4/60ฟื้นตัวจ่อผลิตเต็มกำลังก.พ.61
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON ปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ 18.00 บาทเพิ่มขึ้น 0.70 บาทหรือ 4.05% คาดว่านักลงทุนซื้อเก็งกำไรตามทิศทางปริมาณงานเสาเข็มเจาะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนายชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการ PYLON กล่าวว่า ในในช่วงไตรมาส4/2560 นั้นงานเสาเข็มเจาะเริ่มกลับมาฟื้นตัวโดยมีกำลังการผลิตที่ 12 ชุดจากที่ไตรมาส3/2560กำลังการผลิตหดตัวลง นอกจากนี้แล้วในเดือนมกราคม 2561 นั้นจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นราว 22 ชุด และในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 เพิ่มเป็น 25 ชุดเต็มกำลังการผลิต ทั้งนี้ในเดือนเมษายน 2561 นั้น PYLON จะมีงานเสาเข็มเจาะโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเข้ามาเพิ่มอีก 9 ชุดหลังจากที่ได้เซ็นสัญญากับผู้รับเหมาหลักไว้ก่อนหน้านั้น พร้อมรับงานเสาเข็มเจาะของภาคเอกชนอีก 16 ชุดในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้สัดส่วนงานภาครัฐอยู่ที่ 40% เอกชน 60% ขณะที่ยอด Backlog ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 1,000 กว่าล้านบาท
อันดับที่ 4 CPN ทุ่มงบ1.7หมื่นลบ.เร่งผุดโครงการใหม่ หวังรายได้โต 20% ขณะปี60 โตตามเป้า
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN โดยแหล่งข่าวเปิดเผยว่า CPN เตรียมงบลงทุนในปี 2561 ราว 1.7 หมื่นล้านบาท สำหรับลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการที่จังหวัดนครราชสีมา เชียงใหม่เฟส2 และเชียงราย รวมถึงดำเนินการก่อสร้างห้างเซ็นทรัล 3 แห่งที่ประเทศมาเลเซีย ภูเก็ต ส่วนอีกแห่งยังอยู่ระหว่างพิจารณาพื้นที่ พร้อมกับลงทุนปรับปรุงศูนย์การค้าที่มีอยู่เดิม โดยโครงการที่มาเลเซียคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ปลายปีนี้ ส่วนภูเก็ตเปิดให้บริการกลางปีนี้ นอกจากนี้แล้วในปี 2561 ยังเตรียมรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียม 3 แห่งที่ เชียงใหม่เฟสแรก ขอนแก่น และนครราชสีมาที่รอรับรู้รายได้ราว 3,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันในปีนี้ยังรับรู้รายได้จากศูนย์การค้าเซ็นทรัลนครราชสีมาเต็มปี โดยคาดว่าจะส่งผลให้รายได้เติบโต 20% จากปี 2560
อันดับที่ 5 EA ชี้แจงแผนสำคัญ 4 โครงการย้ำยังดำเนินการตามแผน
บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA มีรายการซื้อขายหลักทรัพย์บนกระดานใหญ่ หรือ BIGLOT 1 รายการจำนวน 3.3 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ย 66.5 บาท/หุ้น มูลค่ารวม 219.4 ล้านบาท ส่วนความเคลื่อนไหวราคาบวกช่วงเช้า 7.48 % ส่วนราคาล่าสุด(15.28น.)อยูที่ 65 บาทบวก 1.50 บาทหรือ + 2.36 % ด้วยมูลค่าการซื้อขาย4.72 พันล้านบาท นอกจากนี้บริษัทขอแจ้งสภาพการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากวันก่อนหน้า ถึงพัฒนาการที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจดังนี้ บริษัทฯ มีนโยบายในการมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจด้านพลังงานทางเลือก โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงวางแผนการดำเนินธุรกิจทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว และดำเนินการตามแผนงานมาโดยตลอด ซึ่งส่วนใหญ่มีทิศทางที่สอดคล้องกับวิวัฒนาการในอุตสาหกรรมและนโยบายของประเทศส่วนแผนงานสำคัญของบริษัทฯ ที่ได้เปิดเผยแล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการตามแผน ได้แก่ 1.โครงการโรงไฟฟ้าพลังงาน “โครงการหนุมาน” จ.ชัยภูมิ กำลังการผลิต 260 MW ,2.โครงการลงทุนในโรงงานผลิตแบตเตอรี่ขนาดกำลังการผลิต 50 GWh ,3.โครงการผลิตน้ำมันกรีนดีเซล และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกัน และ4.โครงการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนตล
