มิติหุ้น – BBL โชว์กำไรสุทธิ 33,009 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.8% รับผลบวกจากการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์ ธุรกิจกองทุนรวม และสินเชื่อที่ขยายตัว 3.2% ด้านเงินทุนสำรองอยู่ในระดับสูงพอรองรับเกณฑ์ D-SIBs
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ธนาคารกรุงเทพ หรือ BBL รายงานผลประกอบการปี 2560 มีกำไรสุทธิ 33,009 ล้านบาท เติบโต 3.8% จากปีก่อน โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 66,625 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% เทียบกับปี 2559 และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 2.32% สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน 45,843 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.5% ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ โดยมาจากค่าธรรมเนียมจากบริการประกันผ่านธนาคารและบริการกองทุนรวม และค่าธรรมเนียมจากการอำนวยสินเชื่อ
ขณะที่ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2560 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 2,003,989 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.2% จากสิ้นปี 2559 สำหรับสินเชื่อด้อยคุณภาพคิดเป็น 3.9% ของเงินให้สินเชื่อรวม ขณะที่ระดับเงินสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของธนาคารมีจำนวน 140,021 ล้านบาท หรือคิดเป็น 160.2% ของเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ
ด้านเงินกองทุน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกประกาศในเดือนกันยายน 2560 เรื่องแนวทางการระบุและกำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ที่มีนัยต่อความเสี่ยงเชิงระบบ (D-SIBs) ซึ่งกำหนดให้ธนาคารในฐานะธนาคารพาณิชย์ที่มีนัยต่อความเสี่ยงเชิงระบบต้องดำรงเงินกองทุนส่วนเพิ่มเพื่อรองรับความเสียหาย (Higher Loss Absorbency) โดยให้ทยอยดำรงอัตราส่วนเงินกองทุนส่วนเพิ่มอีก 0.5% ในแต่ละปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 จนอัตราส่วนเพิ่มเป็น 1.0% ในวันที่ 1 มกราคม 2563
สำหรับธนาคารหากนับกำไรสุทธิงวดกรกฎาคมถึงธันวาคม 2560 เข้าเป็นเงินกองทุน อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารและบริษัทย่อยจะอยู่ในระดับประมาณ 18.9%, 17.4% และ 17.4% ตามลำดับ โดยเงินกองทุนของธนาคารอยู่ในระดับที่สามารถรองรับการดำรงเงินกองทุนส่วนเพิ่มตาม D-SIBs เรียบร้อยแล้ว สำหรับส่วนของเจ้าของ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 มีจำนวน 401,724 ล้านบาท มูลค่าตามบัญชีเท่ากับ 210.45 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 11.90 บาท จากสิ้นปี 2559