บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า จากการประเมิน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC พบว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเซ็น สัญญาคลื่นความถี่ 2.3 กิกะเฮิร์ซอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 ภายหลังจากที่กสทช. ได้อนุมัติแผนธุรกิจคลื่นความถี่ 2.3 กิกะเฮิร์ซให้กับทีโอทีและ DTAC ซึ่งการเซ็นสัญญาคลื่นความถี่ 2.3 กิกะเฮิร์ซที่จะเกิดขึ้น จะส่งผลให้ DTAC ไม่จำเป็นต้องพึ่งพิงหรือลดการพึ่งพิงการประมูลคลื่นความถี่ของกสทช.ที่จะมาถึงในเดือนพ.ค.ปีนี้
นอกจากนี้ราคาหุ้นDTAC ยังถือว่าถูกที่สุดในกลุ่มผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยอัตราส่วน EV/EBITDA ปี 2561 อยู่เพียงแค่ 4.6 เท่า
พร้อมกันนี้ทางบล. ได้ประเมินภายใต้สมมติฐานที่ว่า DTAC สามารถเซ็นสัญญาคลื่นความถี่ 2.3 กิกะเฮิร์ซกับทีโอทีอย่างเป็นทางการได้ภายในครึ่งแรกของปี 2561ซึ่งประเมินว่าDTAC จะมีความกดดันลดลงเพื่อที่จะชนะการได้คลื่นความถี่ใหม่จากการ
ประมูลของกสทช. เพื่อที่จะทดแทนคลื่นความถี่ที่จะหายไปหลังจากหมดอายุของสองสัญญาสัมปทานในเดือนก.ย. 2561 DTAC จะมีจำนวนคลื่นความถี่ในมือเท่ากับ 60 เมกะเฮิร์ซหลังจากหมดอายุสัญญาสัมปทานขึ้นมาเทียบเท่ากับ ADVANC และทรูมูฟเอชซึ่งมีจำนวนคลื่นความถี่ในมือ 55 เมกะเฮิร์ซเท่ากันสำหรับแต่ละราย ในกรณีนี้ เราประเมินว่า DTAC จึงอยู่ในสถานะที่ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบเพื่อที่จะให้ได้มาสำหรับคลื่นความถี่ของ กสทช.ที่จะเปิดประมูลในเดือนพ.ค.นี้
ทั้งนี้แนวโน้มกำไรสุทธิของDTAC ช่วงไตรมาส 4/2560 คาดจะทำได้ 375 ล้านบาท เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด 1,146% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่อาจจะลดลง 38% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 3/2560 โดยปัจจัยหนุนให้ผลประกอบการเติบโตนั้นมาจาก ค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่ลดลง ขาดทุนจากธุรกิจขายเครื่องโทรศัพท์ที่ลดลง และรายได้บริการที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นจึง แนะนำ ซื้อ โดยมีราคาเป้าหมาย 75 บาท