อันดับที่ 1THANI 2 กูรูเตือนราคาปรับตัวขึ้นเกินพื้นฐาน
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินบมจ. ราชธานีลิสซิ่ง หรือ THANI ภายหลังจากรายงานกำไรไตรมาส4/2560 อยู่ที่ 320 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 6 %จากไตรมาสก่อนหน้า และ +35 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ใกล้เคียงกับที่เราคาดการไว้ เนื่อจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 7.7 % ซึ่งเป็นไปตามการเติบโตของสินเชื่อทำให้รายได้จากการเช่าซื้อดีขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยต่ำลง เนื่องจากมีหุ้นกู้ที่ Refinance ในอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง และเกิดจากการตั้งสำรองที่ลดลง 3.8 % จากไตรมาสก่อนหน้า ส่วนใหญ่เป็นการลดค่าใช้จ่ายสำรองทั่วไป เราจึงปรับลดคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “ขาย” ด้านบทวิเคราะห์ บล.เอเชียเวลท์ คาดสินเชื่อ THANI เติบโตแข็งแกร่งขึ้นอีกในปีนี้เราคาดสินเชื่อของ THANI จะเร่งตัวเติบโต 20% YoY ในปี 2561 หนุนโดยพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุก ซึ่งคิดเป็นประมาณ 70% ของพอร์ตทั้งหมด เราคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2561 ของบริษัทจะเติบโต 23.2% YoY อยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท คงคำแนะนำ “ถือ” ด้วยราคาเป้าหมาย 12 เดือนข้างหน้าที่ 10.20 บาท คำนวณจากPER ที่เหมาะสมที่ 18 เท่า และประมาณการ EPS ปี 2561 ที่ 0.57 บาท และอาจมีการปรับประมาณการในภายหลังหลังจากงานประชุมนักวิเคราะห์ ขณะที่ราคาล่าสุด(15.13 น.)อ่ยู่ที่ 10.40 บาท/หุ้นบวก0.10 บาท หรือ +0.97 % ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 125.44 ลบ.
อันดับที่ 2 TU ต้นทุนวัตถุดิบทรงตัว ดันมาร์จิ้นสูง โบรกฯ ฟันธงเป้า 26 บ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป หรือ TU ราคาหุ้นภาคบ่ายปรับตัวขึ้นสูงสุด 21.10 บาท ล่าสุด (15.50 น.) ราคาอยู่ที่ 21.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ +1.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 600 ล้านบาท นักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ประเมิน ธุรกิจ TU มีความน่าสนใจมากที่สุดในกลุ่มอาหารสำหรับการลงทุนในปี 2561 จากราคาปลาทูน่าที่ลดลงอีกในเดือนมกราคม และราคาปลาแซลมอนที่ยังอยู่ในระดับต่ำตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2560 ถือว่าเป็นปัจจัยบวกต่อมาร์จิ้นธุรกิจทูน่าแบรนด์ตั้งแต่ไตรมาส 2/61 เป็นต้นไป และมาร์จิ้นธุรกิจแซลมอนแช่แข็งตั้งแต่ไตรมาส 4/60 โดยมองข้ามกำไรหลักไตรมาส 4/60 จนถึงไตรมาส 1/61 ซึ่งมีแนวโน้มอ่อนตัวลง เนื่องจากถูกกดดันจากต้นทุนสต็อกปลาทูน่าที่อยู่ในระดับสูง ไปยังไตรมาส 2/61 แทน (ซึ่งมาร์จิ้นของธุรกิจทูน่าแบรนด์มีแนวโน้มฟื้นตัวจากต้นทุนราคาปลาทูน่าที่ปรับลดลง แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 26 บาท
อันดับที่ 3 ส่งออกปีจอ ตั้งเป้าโต 5-7%
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า หรือ สนค. คาดการณ์การ ส่งออกสินค้าไทยในปี 2561 จะขยายตัว 5-7% หรือมีมูลค่าประมาณ 248,529-253,263 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มีมูลค่าส่งออกรวม 236,694 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ การส่งออกในเดือน ธ.ค.2560 มีมูลค่า 19,741.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 8.63% การนำเข้า มีมูลค่า 20,019.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 16.60% ไทยขาดดุลการค้า 278.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ยอดรวมการส่งออกของปี 2560 มีมูลค่า 236,694.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 9.9% การนำเข้ามีมูลค่า 222,763.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 14.71% ไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้า 13,930.7 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยตลาดส่งออกสำคัญๆ ขยายตัวเกือบทุกตลาด โดยการส่งออกไปยังตลาดหลัก ขยายตัว 8.3% ขณะที่การส่งออกไปยังตลาดที่มีศัยกภาพสูง ขยายตัวได้ 9% ส่วนตลาดที่มีศักยภาพระดับรองลงมา ฟื้นตัวต่อเนื่องและมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยตลาดสหรัฐ ขยายตัว 10.2% ตลาดยุโรป ขยายตัว 2.1% ตลาดจีน ขยายตัว 8.6% ตลาดเอเชียใต้ ขยายตัว 51.4% ตลาดอาเซียน 5 ประเทศ (ไม่รวม CLMV) ขยายตัว 5% ตลาด CLMV ขยายตัว 8.8% ตลาดทวีปออสเตรเลีย ขยายตัว 5.3% ตลาดตะวันออกกลาง ขยายตัว 8.3% และตลาดลาตินอเมริกา ขยายตัวได้ 5.4%
อันดับที่ 4 PTTEP คิว1/60ลุ้นประมูลผลปิโตรเลียม ในตะวันออกกลาง – มาเลเซีย
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า โดย นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เปิดเผยว่า PTTEP อยู่ระหว่างรอผลการเข้าร่วมประมูลแหล่งปิโตรเลียมในตะวันออกกลางเพิ่มในลักษณะการซื้อกิจการ(M&A) ซึ่งคุณสมบัติของแหล่งใหม่นี้จะเป็นแหล่งขนาดใหญ่ที่ดำเนินการผลิตอยู่แล้ว มีความเสี่ยงต่ำ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยแหล่งได้ คาดว่าจะรู้ผลภายในไตรมาส 1ปีนี้ โดย PTTEPได้ยื่นประมูลไปแล้ว โดยแหล่งนี้ผลิตมานานพอสมควรแต่ก็มีปริมาณสำรองเหลืออยู่มาก พูดง่ายๆอนาคตยังมีอีกไกล ความเสี่ยงไม่มากนักเป็นแหล่งที่ยั่งยืน ราคาน้ำมันผันผวนอย่างไรก็สามารถผลิตแข่งขันกับแหล่งอื่นๆ จึงเข้าประมูลแข่ง ในลักษณะเข้าไปซื้อสัดส่วนการลงทุนไม่ถึง 10%นอกจากนี้ PTTEP ยังรอผลยื่นประมูลแหล่งก๊าซในมาเลเซีย ซึ่งเป็นแหล่งใหม่ คาดว่าจะรู้ผลในเร็วๆนี้ ส่วนความคืบหน้าโครงการในประเทศอิหร่านนั้น PTTEPได้ส่งแผนศึกษาความเป็นไปได้แนวทางพัฒนาปิโตรเลียม 2-3 แหล่งในอิหร่านไปแล้ว โดยยังรอการพิจารณาจากรัฐบาลอิหร่านว่าจะเปิดประมูลหรือให้บริษัทน้ำมันรายใดเป็นผู้ร่วมพัฒนา ขณะเดียวกัน PTTEP
อันดับที่ 5 THAI แนวโน้วคิว4/60 ดี ทิศทางปี61ดีต่อเนื่องเล็งบินยุโรป อเมริกา เพิ่ม
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า โดยแห่ลงข่าววงการอุตสาหกรรมการบิน เปิดเผยว่า ไตรมาส4/2560 บมจ.การบินไทย หรือ THAI ผลประกอบการเติบโตดีกว่าไตรมาส3/2560 เนื่องจากเติบโตตามทิศทิศทางการท่องเที่ยว ขณะที่ปี2561 เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้นตามแผนฟื้นฟู โดยมีความเป็นไปได้จะสามารถออกจากแผนฟื้นฟูได้ในปีนี้ นอกจากนี้แล้วการบินไทยยังมีแผนกลับไปเปิดเส้นบินยังกรุงมาดริด ประเทศสเปน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยอยู่ระหว่างการพิจารณา 3 เมือง เช่น แอลเอ ซานฟาซิโกและ นิวยอร์ก พร้อมมีแผนเปิดเส้นทางบินใหม่ไปเมื่อง แมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ