อันดับที่ 1 PTTGC เล็งปรับเพิ่มยอดขาย หากปิด Q1/61 ราคาน้ำมันยืนระดับ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล หรือ PTTGC โดยนางสาวดวงกมล เศรษฐธนัง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการเงินและบัญชี เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมปรับเป้ายอดขายปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น หากปิดไตรมาส1/2561 แล้ว ราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากที่ตั้งเป้ายอดขายปิโตรเลียมในปีนี้ไว้ที่ 4.8 แสนล้านบาท จากการประเมินที่ระดับราคาน้ำมันเฉลี่ย 55-60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับ 67-70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล “ภาพรวมธุรกิจในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากระดับราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของบริษัทมีราคาที่ดีขึ้น เช่น โพลีเอทิลีนชนิดความหนาแน่นสูง (HDPE) สูงขึ้น ขณะที่ต้นทุนการผลิตไม่ได้สูงตามทิศทางราคาน้ำมัน เนื่องจากใช้แก๊สในการผลิต นอกจากนี้ PTTGC ยังรับรู้ผลประกอบการเต็มไตรมาสของการเข้าซื้อกิจการปิโตรเคมีของกลุ่ม ปตท. จำนวน 6 บริษัท รวมถึงการรับกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษี (EBIT) จากการดำเนินโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพทั้งองค์กร (MAX) ในปีนี้คาดอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท” นางสาวดวงกมล กล่าว
อันดับที่ 2 CHO กระซิบปีนี้ จ่อรับงาน2-3โปรเจ็กต์ยักษ์
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO โดย นายนิติธร ดีอำไพ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-การเงิน เปิดเผยว่า ถายในปีนี้บริษัทมีโปรเจ็กต์ใหญ่ที่เตรียมเข้าร่วมและมั่นใจว่าจะได้รับงานอยู่ประมาณ 2-3 โปรเจ็กต์ แต่ยังไม่สามรถให้ข้อมูลได้ แต่ 1 ใน3 งานดังกล่าวนั้น ได้แก่ งานโครงการพัฒนาเมืองขอนแก่น ในส่วนของงานรถไฟรางเบา โดยในเฟซ1 นั้น มีมูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท โดยทางบริษัทจะร่วมเข้ารับงานระหว่างผู้ประกอบการประเภทธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายหนึ่ง ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย ซึ่งในส่วนของงานบริษัทนั้นจะเป็นการประกอบรถไฟ เพื่อใช้ใน LRT โดยมีมูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท และที่เหลือจะเป็นของทางพันธมิตร ที่รับทำในส่วน นอกจากนี้ยังมีงานในมือ(Backlog) อีกกว่า 700 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้ภายในปีนี้เกือบทั้งหมด
อันดับที่ 3 GPI แย้มQ2/61 จ่อรับรู้รายได้ในเมียนมาร์มูลค่าไม่ต่ำกว่า 30ลบ. หวังเป็นใบเบิกทางสู่สังเวียนตปท.
บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI โดย นาย ปราจิน เอี่ยมลำเนาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทคาดช่วงไตรมาส 2/2561 จะสามารถรับรู้รายได้จากงานแสดงยานยนต์ในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างประเมินราคาของมูลค่างาน โดยเชื่อว่าจะได้รับงานมูลไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท โดยงานดังกล่าวนั้นเป็นงานที่ได้รับจัดงานในต่างประเทศเป็นครั้งแรก จากความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในประเทศเมียนมาร์ที่เล็งเห็นถึงศักยภาพในการจัดงานของบริษัทที่มีคุณภาพสูง จากการก่อนหน้านี้ทางบริษัทได้ ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เป็นผู้ร่วมจัดงาน Myanmar International Motor Show โดยมีอายุสัญญาา 3 ปี (61-63)
อันดับที่ 4 STEC สะสมยอดBacklog 1.2 แสนลบ. ทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง 4ปี พร้อมลุยประมูลงานสายสีส้มตะวันตก-ม่วงใต้ ทางคู่กว่าแสนลบ. กูรูคาดกำไรปี61 กว่า 1,088 ล้านบาท แนะนำซื้อ 31 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ซิโน-ไทยเอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น หรือ STEC โดยแหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรมรถก่อสร้าง กล่าวว่า ปัจจุบัน STEC มียอดงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ราว 1.2 แสนล้านบาทคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ปี 2561-2564 นอกจากนี้แล้วในปี 61 ยังเตรียมเข้าประมูลงานหลายโครงการด้วยกัน เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก มูลค่ากว่า 1.69 แสนล้านบาท รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ มูลค่าราว 1.01 แสนล้านบาท รวมถึงประมูลรถไฟฟ้าทางคู่ 9 เส้นทาง ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินกำไรสุทธิของ STEC ปี 60 ที่ 930 ล้านบาทลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนเนื่องจากถูกกดดันด้วยกอสมาร์จิ้น ดังนั้นฝ่ายวิเคราะห์จึงคงคำแนะนำซื้อที่ราคาเป้าหมาย 31 บาท
อันดับที่ 5 BTS มั่นใจผู้โดยสารโต 4%
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า โดยนายสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด หรือ BTS คาดว่าในปีงบประมาณ 60-61 (เม.ย.60-มี.ค.61) ผู้โดยสารจะเติบโตเพิ่มขึ้นในระดับ 2-4% โดยปัจจุบันมีตัวเลขผู้โดยสารเฉลี่ยประมาณ 8-9 แสนเที่ยวคนต่อวัน เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัว ที่พักที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าเกิดมากขึ้นส่งผลให้คนเดินทางด้วยระบบรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นประกอบกับการเป็นให้บริการเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส ช่วงบางนา-สำโรง จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลต่อการเติบโตของรายได้ซึ่งคาดว่าจะเติบโตมากว่าปีงบประมาณ 2559-2560 ที่มีรายได้รวม 10,405 ล้านบาท ขณะเดียวกันนี้ธุรกิจมีเดียในช่วงไตรมาส3/60 (ต.ค.-ธ.ค.) เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นตามทิศทางภาวะเศรษฐกิจและผู้โดยสารที่เติบโตขึ้น ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบันได้โอนโครงการเดอะไลน์ จตุจักรไปแล้วกว่า 60% หรือ 850 ห้องมูลค่า 3,000 กว่าล้านบาทแล้วที่เหลืออีกประมาณ 500 ห้องคาดว่าทยอยโอนหมดในเดือนมี.ค. 2561 นอกจากนี้แล้วยังเหลือโครงการที่รอโอนอีกประมาณ 7-8 โครงการ มูลค่ากว่า 2-3 หมื่นล้านบาทจะทยอยโอนตั้งแต่ปี 61-63