ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. ซีออยล์ หรือ SEAOIL โดยนายอภิสิทธิ์ รุจิเกียรติกำจร ประธานกรรมการ เปิดเผยว่า บริษัทได้มองหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน โดยจะลงทุนทั้งในรูปแบบการซื้อกิจการ และลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ รวมถึงมองหาการลงทุนธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกับพลังงานและให้ผลตอบแทนการเติบได้ในระยะยาวและยั่งยืน เพื่อเป็นปัจจัยหนุนสร้างการเติบโตให้กับบริษัท จากปัจจุบันที่ยังขาดทุน
โดยปัจจุบันมีโซลาร์ฟาร์มอยู่ 6-7 เมกะวัตต์ที่จ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว ขณะเดียวกัน จากระดับราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น คาดว่าจะไม่เกิน 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล คาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการของบริษัทดีขึ้น
“ผลประกอบการที่ผ่านมา ยังคงถูกกระทบจากภาระดอกเบี้ยเงินกู้ ขณะที่การขายน้ำมันทางทะเล และธุรกิจบริการจัดหาอาหาร วัตถุดิบ และให้บริการอื่น ๆ แก่ที่พักอาศัยในทะเล เรือเดินทะเล และแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในทะเล (Supply Management) ยังไม่เติบโตมาก แต่คาดหวังว่าราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาในช่วงนี้จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่หนุนผลประกอบการให้ดีขึ้น” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนโรงแยกคอนเดนเสทที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ อยู่ระหว่างปิดซ่อมบำรุง คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 1/2561 อย่างไรก็ตาม ในส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้น คาดว่าจะสามารถเคลมประกันได้ในไตรมาส 1/2561 เช่นกัน ส่วนการถือหุ้นในบริษัท Pan Orient Energy (Siam) Limited (POES) ในสัดส่วน 50% ยืนยันว่าจะไม่ขายหุ้นออก เนื่องจากยังเป็นบริษัทที่มีโอกาสเติบโตดีอยู่ โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตปิโตรเลียมอยู่ 400 กว่าบาร์เรลต่อวัน และอยู่ระหว่างการศึกษาเข้าร่วมประมูลแหล่งสัมปทานปิโตรเลียมรอบ 21 เนื่องจากเป็นแหล่งสำรวจใหม่ ส่วนแหล่งบงกช-เอราวัณ ไม่สนใจเข้าร่วมประมูล เนื่องจากเป็นแหล่งผลิตที่มีเจ้าของสัมปทานเดิมที่เชี่ยวชาญในพื้นที่มากกว่า
www.mitihoon.com