มิติหุ้น-บล.เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า จากการประเมิน บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA รายได้ประจำเพิ่มขึ้นจากการให้บริการสาธารณูปโภคในนิคม ทั้งการบริการน้ำดิบ, น้ำประปา, ไฟฟ้า และอื่นๆ สำหรับธุรกิจการบริการน้ำนั้นเรามองว่าบริษัทจะมีการเพิ่มอัตราการใช้งานโรงผลิตน้ำประปา และโรงบำบัดน้ำเสีย จากปัจจุบันที่ใช้กำลังผลิตเพียงประมาณ 60% และคาดว่าบริษัทจะมีการปรับราคาการให้บริการเพิ่มขึ้น คาดอัตรากำไรขั้นต้นธุรกิจการให้บริการปีนี้ จะอยู่ที่ 35% จากปี 60 ที่คาดจะอยู่ที่ 32% นอกจากนี้เรามองว่าบริษัทจะมีรายได้ส่วนแบ่งเงินลงทุนในบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น ตามการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า Amata B-Grimm Power ที่จะเปิดดำเนินงานเพิ่มขึ้นในปีนี้อีก 3 โรง ส่งผลให้บริษัทมีรายได้ส่วนแบ่งจากเงินลงทุนเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก จากปีก่อนที่มีส่วนแบ่งเพียง 1%
นอกจากนี้เชื่อว่ากำไรสุทธิปีนี้จะอยู่ที่ 1,800 ล้านบาท จากปีก่อนที่คาดจะปิด 1,500 ล้านบาท จากการส่งเสริมโครงการของภาครัฐ (EEC) ส่งผลให้ยอดขายที่ดินในนิคมอมตะนคร และอมตะซิตี้ดีขึ้น รวมทั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศเวียดนาม โดยเฉพาะเวียดนามใต้ที่มีการขยายโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้เรามองว่าบริษัทจะพัฒนา และขยายกำลังการผลิตเพื่อสนับสนุนการให้บริการในนิคมอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้นแนะนำ ซื้อ
ส่วนด้านแหล่งข่าวอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินธุรกิจพัฒนานิคมฯในประเทศเวียดนาม ปัจจุบันมี 2 แห่ง ประกอบด้วย บริษัท อมตะซิตี้ เบียนหัว จังหวัดดองไน บนพื้นที่ 700 เฮกตาร์ หรือ 4,375 ไร่ ถือเป็นโครงการแรกที่อมตะเข้าพัฒนาในต่างประเทศ ซึ่งในขณะนี้มีนักลงทุนเข้าประกอบกิจการเกือบเต็มพื้นที่ ส่วนบริษัท อมตะซิตี้ ลองถั่น จังหวัด ดองไน โครงการที่ 2 บนพื้นที่ 1,270 เฮกตาร์ หรือ ประมาณ 8,000 ไร่ โดยแบ่งเป็นโครงการนิคม 33% และโครงการพัฒนาเมืองชุมชน 67% สำหรับในปีนี้ บริษัทจะเริ่มพัฒนาและเปิดขายพื้นที่โครงการนิคมอุตสาหกรรมไฮเทคเป็นอันดับแรก โดยคาดว่าเงินลงทุนที่ต้องใช้สำหรับโครงการนี้ ประมาณ 10,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังตั้งเป้าหมายการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ หรือสมาร์ทชิตี้ตามแผนการลงทุนในระยะ 5 ปี (ปี 61-64) ของอมตะฯ โดยรูปแบบการลงทุนจะร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อดำเนินโครงการเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น บริษัทอินชอน สมาร์ทชิตี้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Incheon Smart City Corporation) ประเทศเกาหลี และบริษัท Saab AB จากประเทศสวีเดน เป็นต้น
www.mitihoon.com