มิติหุ้น – “ไทยประกันชีวิต” เดินตามแผนยุทธศาสตร์ 10 ปี ปรับเกมรับมือการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจสู่ยุคดิจิตอล มุ่งเป้าหมายเติบโตยั่งยืน ย้ำ “คน” ยังเป็นหัวใจหลัก เน้นพัฒนาตัวแทนยกชั้นเป็น Life Partner ตั้งธงกวาดเบี้ยปีแรก 1.7 หมื่นล้านบาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นายไชย ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจว่า บริษัทได้มีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ (Road Map) 10 ปี 5 ปี และ 3 ปี เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจอย่างชัดเจน ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยมีเป้าหมายให้ไทยประกันชีวิตเป็นองค์กรที่เติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainable Growth Organization) ส่วนเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2561 บริษัทตั้งเป้าหมายเบี้ยประกันรับปีแรก 17,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2560 ประมาณ 15%
วางเกมปั้นเบี้ยโตแรง
โดยจะแบ่งเป็นเบี้ยที่มาจากช่องทางตัวแทน 11,800 ล้านบาท และช่องทาง Non Agent 5,200 ล้านบาท โดยเน้นขายสินค้าประเภทคุ้มครอง สินค้าออมทรัพย์ระยะเวลา 20 ปีขึ้นไป สัญญาพิเศษเพิ่มเติม รวมถึงสินค้าควบการลงทุน ทั้ง Universal Life และ Unit Link ซึ่งเป็นสินค้าที่สามารถตอบโจทย์กลุ่มผู้มีเงินออม
“แม้ว่าบริษัทจะนำเทคโนโลยีหรือดิจิตอลเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาระบบงาน การบริการ หรือช่องทางการขาย แต่หัวใจหลักของธุรกิจประกันชีวิต คือการสร้างความผูกพันกับคน หรือ Human Touch
โดยเฉพาะช่องทางตัวแทน แม้จะนำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนการขาย แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องสร้างความไว้วางใจ ความรัก และความผูกพันให้เกิดกับผู้เอาประกัน ต้องมีความเป็นมืออาชีพ เป็น Life Partner รวมถึงการขายผ่านช่องทางออนไลน์ หรือ E-Commerce ที่ต้องมีความเป็นเพื่อนคู่คิด (Companion) เป็นที่ปรึกษาวางแผนชีวิตเช่นเดียวกัน เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับการบริการที่ดีไม่แตกต่างจากตัวแทน” นายไชยกล่าว
วางยุทธศาสตร์หนุนโตระยะยาว
ส่วนแผนยุทธศาสตร์ (Road Map) 10 ปี 5 ปี และ 3 ปี ของบริษัทนั้น มีความสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจในลักษณะ People Business หรือธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับ “คน” ซึ่งนับจากปี 2558 เป็นต้นมา บริษัทได้มุ่งเน้นกลยุทธ์หลัก 7 ด้าน ได้แก่ 1.Holistic Customer Propositions ยึดประโยชน์ของผู้บริโภคเป็นหลัก 2. Channel Productivity การพัฒนาช่องทางการขายให้มีศักยภาพและมีความหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะในช่องทางตัวแทน ที่ต้องพัฒนาสู่การเป็นผู้วางแผนดูแลชีวิต หรือ Life Partner ที่ต้องพร้อมขายสินค้าประเภท Unit Linked หรือ Universal Life ซึ่งเป็นสินค้าที่มีแนวโน้มขยายตัวในอนาคต
3. Successful Expansion การขยายธุรกิจสู่ตลาดในภูมิภาคอื่น โดยจะเริ่มจากประเทศในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งเป็นประเทศที่มีศักยภาพ และมีแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยตั้งเป้าเป็นบริษัทขนาดใหญ่ 1 ใน 5 ด้านเบี้ยประกันรับปีแรกและเบี้ยประกันรับรวม 4. Higher Return on Investment ให้ความสำคัญกับการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่า
5. Expense Optimization การบริหารต้นทุนให้เกิดประสิทธิภาพ ปรับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น 6. Technology Excellence ปรับปรุงระบบจัดการธุรกิจและนำเทคโนโลยีใหม่มาพัฒนาการดำเนินงาน ทั้งระบบการให้บริการ ช่องทางการขาย และ 7. Brand Love การสร้างแบรนด์ เพื่อมุ่งสู่การเป็นแบรนด์ชั้นนำที่สร้างแรงบันดาลใจ และอยู่ในใจผู้บริโภคทุกคน
ที่มา : บมจ.ไทยประกันชีวิต
เรียบเรียง : พรเพ็ญ เวชกามา
