ข่าวการชนะประมูลซื้อสถานฑูตอังกฤษในกรุงเทพฯ ให้กับกลุ่มเซ็นทรัล ไม่ใช่อะไรที่แปลกใจ แต่ราคาสิ ทำให้เราต้องอ้าปากค้าง ว่าอะไรมันจะมากมายขนาดนั้น
สถานฑูตแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2465 มีขนาดกว่า 23 ไร่ สร้างขึ้นสไตล์โคโลเนียล ซื้อต่อมาจาก พระยาภักดีนรเศรษฐ ซึ่งตรงกับปลายรัชกาลที่ 6 สมัยนั้นยังถือเป็นเขตนอกเมืองหากนับจากบริเวณสนามหลวง แต่ใครจะไปนึกถึงว่า 96 ปีต่อมา ที่นี่คือใจกลางกรุงเทพ ที่มีราคาซื้อขายที่ดินแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยมูลค่า 18,900 ล้านบาท
เม็ดเงินจูงใจ ลงตัวกับนโยบายปรับปรุงใหม่
การตัดสินใจของสถานฑูตในการขายพื้นที่นี้ น่าจะมาจากเม็ดเงินที่ได้รับปริมาณมาก และเล็งเห็นถึงการนำไปปรับปรุงสถานฑูตในอีกหลายประเทศ ให้เกิดความทันสมัยที่สุด รวมถึงในไทย ที่จะย้ายไปอยู่ในเขตสาทร และมีเป้าหมายที่จะเป็นสถานฑูตอันทันสมัย ตอบโจทย์การบริการและความปลอดภัยได้เต็มรูปแบบ ดีกว่าการอยู่แห่งเดิมที่เก่ามากและต้องใช้งบประมาณในการบูรณะสูง อีกทั้งยากที่จะนำเครื่องมือเครื่องใช้ใหม่ๆ เข้าไปติดตั้ง เนื่องจากระบบเดิมนั้นเก่ามากแล้ว
เซ็นทรัลเจอไฟท์บังคับ มิฉนั้นคู่แข่งคว้าไปแล้ว จะลำบาก
การชนะประมูลด้วยเม็ดเงินก้อนโตนี้ โดย “กลุ่มเซ็นทรัล” จับมือกับ “กลุ่มทุนฮ่องกง แลนด์” ต้องบอกว่าเป็นไฟท์บังคับ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่กึ่งกลางที่จะเชื่อมต่อจากเซ็นทรัลชิดลมไปยังเซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ แม้จะควักซื้อระดับ 2 เท่าต่อตารางวา (จากการจ่าย 2.2 ล้านบาทต่อตารางวา) แต่ก็ต้องคว้ามาให้ได้ เพื่อเชื่อมต่อวัฒนธรรมอันสุดล้ำของ Central Group ไม่อย่างนั้นแล้ว หากกลุ่มเสี่ยเจริญ หรือกลุ่มแสนสิริ ได้ไป พื้นที่ตรงกลางนี้จะกลายเป็นโรงแรมหรู หรือคอนโด High End ของกลุ่มนอกเครือ และอนาคตของศูนย์การค้าทั้งสองจะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่หนักหนายิ่งนัก
หลังจากนี้ไป วัฒนธรรมอันทันสมัยจะต่อเนื่องเป็นทางยาว ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวน่าจะเป็นโรงแรมอันทันสมัย ผสมผสานกับร้านค้าระดับโลก และคอนโดมิเนียมแพงระยับแซงหน้าแสนสิริอย่างไม่ต้องสงสัย
เกมส์นี้น่าจับตาอย่างมาก เรามาคอยตามดูกัน
“บิ๊กเซ็ต”