อันดับที่ 1 SGP ไฮซีซั่นยอดขายพุ่ง หนุน Q4/60 กำไรจ่อนิวไฮ อัดงบ 1.2 พันลบ. ขยายลงทุนในเมียนมา-อินโดฯ
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ หรือ SGP โดยแหล่งข่าววงการอุตสาหกรรมแก๊ส เปิดเผยว่า ราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากวันที่ 18 ม.ค. 61 จากระดับ 27.75 บาท มาสูงสุดที่ 32.75 บาทในวันที่ 7 ก.พ.61 คาดว่าจะมาจากปัจจัยผลประกอบการของบริษัท SGP เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนภาพรวมปี 2560 มั่นใจว่าจะทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ 3.2 ล้านตัน สำหรับการลงทุนในปีนี้คาดว่าใช้เงินลงทุนราว 1,200 ล้านบาท ตามสัดส่วนการถือหุ้น 65% ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างคาดแล้วเสร็จปลายปีนี้ ขณะที่การลงทุนก่อสร้างคลัง LPG โรงบรรจุแก๊สและท่าเรือในประเทศอินโดนีเซียคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้กลางปี 2561 ใช้เงินลงทุนราว 400 ล้านบาท ที่เหลือใช้สำหรับปรับปรุงคลังLPG เก่า
อันดับที่ 2 GPI รุกแตกไลน์ธุรกิจวิทยุ-ที่ปรึกษาด้านอสังหาฯ มั่นใจปีนี้รายได้โต 20%
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ GPI โดย นายปราจิน เอี่ยมลำเนาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้ปีนี้เติบโตได้ 20% ตามอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ทำให้ค่ายรถยนต์ได้ลงทุนจัดการแสดงรถยนต์เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลบวกต่อบริษัทโดยตรง พร้อมกันนี้ บริษัทมีแผนจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ในประเทศเมียนมา โดยมีทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 3 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจรณาว่าจะเป็นการลงทุนเองทั้งหมดหรือจะเป็นการร่วมมือระหว่างพันธมิตรถ้องถิ่น จะมีมูลค่าหลัก 10 ล้านบาทขึ้นไป และจะรับรู้รายได้ทันทีช่วงไตรมาส 3/2561นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาและพิจารณาการเข้าไปรับงานในประเทศอินโดนิเซียและมาเลเซีย ซึ่งภายในปี 2561 จะรับงานเป็นที่ปรึกษาในการจัดงาน
อันดับที่ 3 ชี้ BR โตแกร่ง เชียร์ “ซื้อ” ให้ราคาเป้า 9.50 บ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของ บมจ. บางกอกแร้นช์ หรือ BR เชื่อว่าจะออกมาแข็งแกร่งในปี 2561 โดยบริษัทยังคงมีอำนาจการต่อรองที่แข็งแกร่งในด้านของราคาขาย เนื่องจากการผลิตของคู่แข่งยังไม่ฟื้นตัวกลับมาสู่ภาวะปกติ หลังจากเกิดไข้หวัดนกตั้งแต่ช่วงปลายปี และเมื่อวันที่ 10 ต.ค.2560 พรรคการเมืองที่ได้จัดตั้งรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ใหม่ ประกาศข้อตกลงร่วม ซึ่งรวมถึงโอกาสในการปรับภาษีเงินได้นิติบุคคลลง ดังนั้น อัตราภาษีของ BR สำหรับการดำเนินงานในเนเธอร์แลนด์จะปรับตัวลดลงจาก 25% ในปี 2561 มาอยู่ที่ 24% ในปี 2562, 22.5% ในปี 2563 และ 21% ในปี 2564 นอกจากนี้ BR กำลังขยายเข้าสู่ธุรกิจที่เพิ่มมูลค่า อย่างผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป ready-to-eat และ ready-tocook อัตรากำไรขั้นต้นจะเริ่มขยายตัวเมื่อโรงงานใหม่มีอัตรากำลังการผลิตที่ ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยมีราคาเป้าหมายพื้นฐาน 9.50 บาท
อันดับที่ 4 PTTEP โยน BIGLOT 2 วัน 1.28 พันลบ.
มิติหุ้น-บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ PTTEP มีรายการซื้อขายหลักทรัพย์บนกระดานใหญ่ หรือ BIGLOT จำนวน 5.5 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ย 116 บาท/หุ้น 1 รายการ มูลค่ารวม 638 ล้านบาท ต่อเนื่องจากเมื่อวาน(6 ก.พ.61)ที่ดัชนีดิ่งพบ BIGLOT ของ PTTEP มูลค่า 649.88 ล้านบาท รวม 2 วันมูลค่า 1,287.88 ลบ. นอกจากนี้ PTTEP ยังขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายเงินปันผล 2.75 บาท/หุ้น ในวันนี้ (7 ก.พ.61) ด้านบทวิเคราะบล.ซีไอเอ็มบี แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 144 บาท/หุ้นอิง P/BV 1.3x ยังมีอัพไซต์ราคากว่า 20 % พร้อมประเมินมุมมองเชิงบวกต่อดีล Shell ตกลงขายหุ้น 22.22% ในแหล่งบงกชให้กับ PTTEP ในราคา 750 ล้านเหรียญสหรัฐ บวกภาษีจากกำไร ทั้งนี้ PTTEP ดำเนินงานแหล่งบงกชในอ่าวไทยร่วมกับ Total และ Shell พร้อมปรับประมาณการกำไรต่อหุ้นขึ้น 4.0-8.6% ในปี FY18-19 สะท้อนปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นและกำไรจากการซื้อหุ้น
อันดับที่ 5 VGI ทิศทางไตรมาส4/60-61โตต่อเนื่อง หลังอุตสาหกรรมโฆษาฟื้นตัว ภาพรวมทั้งปีโตตามเป้า โบรกแนะนำซื้อ 6.80 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.วีจีไอ โกลบอล มีเดีย หรือ VGI โดยแหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรมโฆษณาเปิดเผยว่า แนวโน้มไตรมาส4/2560-2561 (ม.ค.-มี.ค.61) คาดว่าผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องจากภาวะอุตสาหกรรมโฆษณาฟื้นตัวหลังจากผ่านพ้นพระราชพิธีสำคัญเริ่มมีการลงโฆษณาเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันจำนวนสื่อในอาคารเพิ่มเป็น 172 อาคาร รวมถึงได้รับปัจจัยหนุนจากการบริการ “Station Sponsorship” 9 สถานี นอกจากนี้แล้วยังได้รับบมจ.มาสเตอร์ แอด หรือ MACO จากโฆษณาภาพนิ่งดิจิตอลที่เพิ่มขึ้น ส่วนภาพรวมในปี (60-61) มั่นใจว่ารายได้จะเติบโตตามเป้าหมายที่ 3,900-4,000 ล้านบาท ด้านฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า คาดกำไรไตรมาส3/2560-2561เพิ่มขึ้น 39.6% อย่างไรก็ตามฝ่ายวิเคราะห์ได้ปรับราคาพื้นฐานเป็นปี 2561/2562 ที่ 6.80 บาท และปรับคำแนะนำเป็นทยอยซื้อ โดยคาดว่ากำไรจะโตขึ้น 22.9% หรือ 1,012 ล้านบาทเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการเติบโตของเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้และกำไรฟื้นตัวขึ้น