5  อันดับข่าวเด่นมิติหุ้นภาคบ่าย

206

อันดับที่ 1 RML นิวไฮรอบ 2 เดือน หลังพบ Big Lot จำนวน 250 ล้านหุ้น ราคาสูงกว่าในกระดาน

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บมจ. ไรมอน แลนด์ หรือ RML ในการซื้อขายภาคเช้า พบว่ามีการซื้อขาย Big lot จำนวน 250 ล้านหุ้น จำนวน 4 รายการ ราคาเฉลี่ย 1.10 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 275 ล้านบาท  ทั้งนี้ ราคาหุ้น RML ได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบ 2 เดือน โดยราคาซื้อขาย Big lot  เป็นราคาที่สูงกว่าราคากระดานที่ปิดครึ่งวันเช้าที่ 1.06 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 10.42% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 87.96 ล้านบาท  อนึ่ง ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ RML 5 อันดับแรก ณ วันที่ 4 พ.ค.60 มี JS ASSET MANAGEMENT PTE. LTD. ถือหุ้นอันดับ 1 จำนวน 893 ล้านหุ้น คิดเป็น 24.98% รองลงมา เป็นกองทุนเปิด ไทยทวีทุน 2 ถือหุ้น 250 ล้านหุ้น คิดเป็น 6.99% บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ถือหุ้น 237.07 ล้านหุ้น คิดเป็น 6.63% นายจิรวุฒิ คุวานันท์ ถือหุ้น 206.19 ล้านหุ้น คิดเป็น 5.77% และ UBS AG SINGAPORE BRANCH ถือหุ้น 98.94 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.77%

อันดับที่ 2 SCCC ปีทองลุ้นกำไรโตทะลัก กูรูให้เป้าสูงสุด 310 บาท/หุ้น

มิติหุ้น-บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) ได้ระบุถึงคาดผลประกอบการไตรมาส 4/2560 ของ บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง หรือ SCCC อยู่ที่ 405 ล้านบาท (+18%QoQ,-54%YoY) ซึ่งเป็นไปตามที่คาดไว้อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ใน 4Q60 ทรงตัวอยู่ที่ 33.7% เนื่องจากราคาถ่านหิน เราจึงยังคงแนะนำ ให้ “ซื้อ” SCCC จากแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่ง และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจ ด้าน บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า SCCC ประเมินความต้องการปูนซีเมนต์ในปี 2561 จะทรงตัว แต่ถ้าโครงการภาครัฐบาลเริ่มก็จะช่วยให้ความต้องการปูนซีเมนต์เติบโตได้ 5% ในขณะที่ SCCC มีการขยายกำลังการผลิตจากการเข้าไปลงทุนในต่างประเทศต่อเนื่อง ทำให้กำลังการผลิตปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้นจากอดีต 14.5 ล้านตัน เป็น 26.5 ล้านตัน ประเมินราคาเป้าหมาย 270 บาท บนฐาน P/E + 1SD = 19.5x คงแนะนำ ถือ

อันดับที่ 3 L&E ปี61 ฟื้นรุกขายหลอดไฟ ตปท.กูรูแนะซื้อ 4 บาท อัพไซต์ 35.2 %

มิติหุ้-บล.จีเอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” L&E ราคาเหมาะสมอยู่ที่ 4.00 บาท/หุ้น อิง PER 19 เท่า คาดผลประกอบการของบริษัทในปี 2561 จะฟื้นตัวขึ้น โดยได้ปัจจัยหนุนหลักจากภาคเอกชนที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก และการขยายตลาดไปสู่ต่างประเทศในกลุ่ม CLMV แม้ว่า ราคาหลอดไฟและโคมยังคงปรับตัวลดลงตามเทคโนโลยีที่พัฒนาและต้นทุนที่ถูกของโรงงานในประเทศจีน ซึ่งจะกดดันยอดขายต่อหน่วย คาดกำไรสุทธิ 4Q17 ของ บริษัทจะออกมาที่ระดับ 39 ล้านบาท ( +15.2%YoY,+51.3%QoQ) ส่วนรายได้คาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.9 %YoY และ 46.7%QoQ โดยปัจจัยหลักจากช่วงการรับรู้ รายได้ของงานโครงการของบริษัทที่มักกระจุกตัวในช่วงครึ่งหลัง มากกว่าในช่วงครึ่งแรก พร้อมประเมินอัตราการทำกำไรขั้นต้นที่ระดับ 31% และ EBITDA Margin ที่ระดับ 8.4% ประเมินราคาเหมาะสมปี 18 ของ L&E ที่ 4.00 บาท อิงPER 19 เท่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ย 5 ปีและเราเริ่มต้นให้คำแนะนำ “ซื้อ” จาก Upside ที่อยู่ในระดับสูงราว 35.2%

อันดับที่ 4 IVL ราคาดีด 4.9 % พบBIGLOT 145.5 ลบ.

มิติหุ้น-ความเคลื่อนราคาหุ้น บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส หรือ IVL ช่วงบ่ายปรับขึ้นไปสุงสุดที่ 53.25 บาท/หุ้น บวก 2.5 บาท หรือบวก 4.92 % ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.71 พันลบ. ด้านบทวิเคราะห์เทคนิค บล.ไอร่า แนะนำให้ทยอยซื้อ พร้อมให้แนวรับที่ 50.25/46 บาท ส่วนแนวต้านที่ 52.50/54.25 บาท ส่วนจุดตัดขาดทุนที่ 50 บาทต่อหุ้น  นอกจากนี้ยังพบว่ามีรายการซื้อขายหลักทรัพย์บนกระดานใหญ่ หรือ BIGLOT จำนวน 3 รายการ 2.5 ล้านหุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 58.20 บาท มุูลค่า 145.5 ล้านบาท

อันดับที่ 5 IRPC แนวโน้วไตรมาส4/60โตแกร่ง

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไออาร์พีซี หรือ IRPC โดยแหล่งข่าววงการอุตสาหกรรมเปิดเผยว่า ผลประกอบการในช่วงไตรมาส4/60 จะเติบโตดีกว่าไตรมาส3/60 ที่มีกำไรสุทธิ 3,247 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจโรงกลั่นที่ได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบในตลาดยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงเฉลี่ยที่ 55-60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล  ประกอบได้ปัจจัยหนุนจากโครงการ เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ (UHV) ของ โรงกลั่นและการขยายกำลังการผลิตโพลีโพรพิลีน (PP) อีก 3 แสนตันต่อปีและโครงการEVEREST ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนกำไรสุทธิปี 2560 คาดว่าจะเติบโตดีกว่าปี 2559 โดยในปี 2561 นั้นคาดว่าจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งเนื่องจากจะเป็นปีที่เก็บเกี่ยวกำไรจากการลงทุนทั้งหมดและทำให้ยังมีเงินเหลือสำหรับการซื้อกิจการ ขณะทิศทางราคาน้ำมันยังประเมินในปี 2561ที่ระดับ 55-60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้ แต่มองว่าเป็นเพียงชั่วคราวจากภาวะผิดปกติทั้งสภาพอากาศ  ส่วนราคาหุ้นวันนี้ (9 ก.พ.61) อยู่ในระดับ 7.35 บาทเพิ่มขึ้น 0.10 บาทหรือ 1.38% คาดนักลงทุนเก็งกำไรตามทิศทางผลประกอบการไตรมาส4/60