อันดับที่ 1 TPCH ลั่นปีนี้ COD เพิ่มอีก 30 MW หวังดันปี 63 จ่ายไฟแตะ 120 MW
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. ทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้ง หรือ TPCH โดย นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุลกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 30-40% ตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจากปีก่อนมีกำลังการผลิตที่ขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์(COD)ที่ 50เมกะวัตต์ ซึ่งในขณะนี้โรงไฟฟ้าสตูล กรีน เพาเวอร์ ที่มีกำลังการผลิต 9.2 เมกะวัตต์ ได้เริ่ม COD แล้ว จึงทำให้่บริษัทมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 60 เมกะวัตต์ อนึ่ง บริษัทมีโครงการที่อยู่ในระหว่างก่อสร้างทั้งสิ้น 49 เมกะวัตต์ นอกจากนั้น บริษัทมีโครงการที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาทั้งสิ้น 10 เมกะวัตต์ รวมโครงการทั้งสิ้น 119 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวนั้นใช้งบจากเงิน IPO ที่ได้มาประมาณ 1,100 ล้านบาท ซึ่งงบดังกล่าวนั้นสามารถรองรับการลงทุนของโรงไฟฟ้าได้ถึง 150 เมกะวัตต์ สำหรับการลงทุนในต่างประเทศ ทางบริษัทยังไม่สนใจแต่อย่างใด โดยจะมุ่งเน้นการลงทุนในประเทศเป็นหลัก ขณะที่ด้านราคาหุ้น TPCH ช่วงเช้านี้ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอยู่ที่ 14.80 บาท (10.33 น.) เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ 1.37%
อันดับที่ 2 PK บวก 5% ปักธงปีนี้รายได้ทะยาน 5 พันลบ. เน้นรุกตลาด ตปท. – เพิ่มตัวแทนจำหน่าย
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น”รายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บมจ. พัฒน์กล หรือ PK ช่วงเช้านี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มาอยู่ที่ 6.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.35 บาท หรือ 5.56% ด้วยมูลค่าการซื้อขายว่า 37 ล้านบาท ด้าน นายแสงชัย โชติช่วงชัชวาล ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร PK เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ปีนี้จะทำได้ 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำสถิติสูงสุดใหม่ จากการใช้กลยุทธ์ขยายตลาดต่างประเทศมากยิ่งขึ้น โดยจะเน้นในตลาดแถบยุโรป สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย เป็นหลัก นอกจากนี้ยังเตรียมเพิ่มตัวแทนจำหน่ายเพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์รุกตลาดต่างประเทศ นอกจากนี้ บริษัทยังมีงานในมือ (Backlog) อยู่ทั้งสิ้น 2,400 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต
อันดับที่ 3 SCI จ่อเซ็นก่อสร้างเสาส่งไฟฟ้าในลาวเพิ่ม 1 โครงการ มูลค่า 306 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ราคาหุ้น บมจ.เอสซีไอ อีเลคตริค หรือ SCI ซื้อขายภาคเช้าปรับตัวขึ้นสูงสุด 5.95 บาท ล่าสุด (11.30 น.) ราคาอยู่ที่ 5.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ +2.63% มูลค่าการซื้อขายกว่า 1.79 ล้านบาท นายเกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทคาดรับรู้รายได้ในปี 2561 เพิ่มขึ้น โดยมาจากการเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring Income) โดยการลงทุนผ่านบริษัท ที ยูทิลิตี้ส์ จำกัด (TU) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับ บมจ. พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค หรือ PF ซึ่งคาดว่าจะเห็นรายได้เริ่มทยอยเข้ามาในช่วงปี 2561ส่วนความคืบหน้าโครงการก่อสร้างเสาส่งไฟฟ้าในสปป.ลาว คาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงต้นปี 2561 โดยปัจจุบันบริษัทมีการเซ็นสัญญาแล้ว 1 สัญญา มูลค่างาน 416 ล้านเหรียญสหรัฐ และในช่วงต้นปี 2561 คาดว่าจะเซ็นสัญญาอีกสัญญา มูลค่างาน 306 ล้านเหรียญสหรัฐ ประกอบกับบริษัทยังมีรายได้ทั้งจากธุรกิจผลิตตู้สวิทช์บอร์ดและรางเดินสายไฟ และรายได้จากการขาย เสา โครงเหล็ก และชุบกัลป์วาไนซ์
อันดับที่ 4 EA เล็งตั้งนิคมอุตฯ 1-2พันไร่ที่ฉะเชิงเทรา รับ EEC สรุปพันธมิตรปีนี้
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA โดยนายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาสร้างนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาร่วมลงทุนกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) รวมถึงพันธมิตรที่เป็นเอกชน เบื้องต้นคาดใช้พื้นที่ 1,000-2,000 ไร่ คาดว่าจะสามารถสรุปความชัดเจนและสัดส่วนการลงทุนได้ภายในปีนี้ และจะสามารถดำเนินการได้ในปี 2562 อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นหากลงทุนเฉพาะโครงสร้างพื้นฐาน คาดจะใช้งบ 1,000 ล้านบาท ไม่รวมที่ดิน แต่หากรวมที่ดินจะใช้เงินลงทุนมากกว่า 5,000 ล้านบาทสำหรับนิคมฯ จะรองรับที่ตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ โรงงานผลิตไบโอดีเซล กรีนเซอร์ลีน กรีนดีเซล พีซีเอ็มจะส่งผลให้มีการผลิตไบโอดีเซลเพิ่มเป็น 1.2 ล้านลิตรต่อวันจากปัจจุบันผลิตที่ 8 แสนล้านลิตรต่อวัน และเป็นพื้นอื่นๆ อีกอันดับที่ 5 AJA สละสิทธิ์จองซื้อหุ้นเพิ่มทุน “เวนดิ้ง คอร์ปอเรชั่น” เหตุมีลงทุนในธุรกิจอื่น
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นายอมร มีมะโน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทของ บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ครั้งที่ 3/2561 ซึ่งบริษัทจัดประชุมในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ สละสิทธิการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนทั้งหมดในบริษัท เวนดิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (“VDC”) ที่บริษัทมีสิทธิจองซื้อทั้งหมดจำนวน 265,059 หุ้น ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ดังกล่าวบริษัทฯ ได้สละสิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนทั้งหมดใน VDC แล้วเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 การสละสิทธิการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนทั้งหมดส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ ใน VDC ลดลงจากร้อยละ 17.67 เป็นร้อยละ 14.48 ของทุนจดทะเบียนทั้งหมดของ VDC เนื่องจากบริษัทฯ ไม่มีแผนที่จะลงทุนเพิ่มในบริษัท VDC และบริษัทฯ มีแผนการลงทุนในธุรกิจอื่น ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องใช้กระแสเงินสดจากการรับชำระหนี้จาก VDC ในครั้งนี้เพื่อนำไปลงทุนในธุรกิจอื่น
