มิติหุ้น-บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เอเชีย เวลท์ เพื่อประเมินหุ้น บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสรัคชั่น หรือ STEC โดยคาดว่า ไตรมาส 4/60 และปี 2560 เป็นปีที่กำไรยังอ่อนแอที่ 280 ล้านบาท จากงวด 9 เดือนของปี 2560 ทำกำไรสุทธิได้ 709 ล้านบาท ทั้งปี 2560 คาดได้กำไร สุทธิ 989 ล้านบาท โดยเราคาดว่าปี 2560 และไตรมาส 4/60 เป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่ STEC จะทำกำไรไม่น่าประทับใจ แต่คาดว่าในปี 2561-2563 รายได้และกำไรของ STEC จะยกฐานขึ้นจากระดับรายได้ 17,000 ล้านบาท และกำไรต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ขึ้นไปสู่ฐานใหม่ เป็นระดับรายได้ 30,000 ล้านบาทขึ้นไป และกำไรประมาณ 1,500 ล้านบาท
ขณะที่ Backlog เพิ่มเข้ามาเป็นจำนวนมากถึง 65,000 ล้านบาทในปี 2560 ได้แก่โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม 16,862 ล้านบาท ,รถไฟฟ้าสายสีเหลือง 19,159 ล้านบาท ,รถไฟฟ้าสายสีเหลือง 21,495 ล้านบาท รวมถึง โครงการย่อยอื่น ๆ เข้ามา และในช่วงเดือน ก.พ.61 ได้รับ Backlog การสร้างโรงไฟฟ้าของ GULF สองโรง โรงละ 2,500MW รวมเป็น 5,000 MW คิดเป็นมูลค่างาน 20,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับ Backlog ที่คงเหลืออยู่เดิมราว 28,000 ล้านบาท Backlog เพิ่มเข้ามาราว 85,000 ล้านบาท รวมกับ Remaining Backlog ทำให้ Backlog ล่าสุดพุ่งสูงถึง 112,700 ล้านบาท งานก่อสร้างจาก Backlogใหม่ คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2561 นี้เป็นต้นไป
จึงปรับคำแนะนำจากเดิมถือ เป็น “ซื้อ” ปรับราคาเป้าหมายขึ้นจาก 25.00 บาท เป็น 28.50 บาท โดยอิงค่า EV/EBITDA ที่ 12 เท่า ปรับลดค่าเฉลี่ยของกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ลงจากเดิม 15 เท่า มาที่ 12 เท่า เนื่องจาก Outlook รวมไม่สดใส แต่สำหรับ STEC มีความโดดเด่นเฉพาะตัวเพราะคว้างานเข้ามาเป็ น Backlog ได้มาก และงานที่ได้มามีมาร์จิ้นที่ดี เมื่อเราปรับฐานรายได้และกำไรสุทธิของ STEC ในปี 2561-2563 เพิ่มขึ้นสู่ ระดับเกิน 30,000 ล้านบาท ตามมูลค่างานที่ได้มาและพร้อมรับรู้ รายได้ พบว่า EPS ของบริษัทจะดีขึ้นอย่างมาก
www.mitihoon.com