บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) ประเมิน บมจ.คาราบาวกรุ๊ป หรือ CBG โดยคาดว่ากำไรใน 4Q60 จะอยู่ที่ 366 ล้านบาท (-6% QoQ, +53% YoY)การบริโภคเครื่องดื่มชูกำลังลดลงประมาณ 2% ในช่วง 4Q60 (หรือประมาณ 1-2% ในปี 2560) ในขณะที่ส่วนแบ่งตลาดของบริษัทที่ลดลงเล็กน้อย จะเป็นปัจจัยที่กดดันการเติบโตของยอดขายในประเทศ ส่วนรายได้จากการส่งออกน่าจะยังโตได้ถึง 47% YoY ดังนั้น เราจึงคาดว่า ยอดขายรวมจะโต 3% QOQ และ 27% YoY ใน 4Q60 และ เติบโต 37% ในปี 2560
โดยใช้สมมติฐานว่า อัตรากำไรขั้น ต้นจะทรงตัว QoQ อยู่ที่ 32.8% และสัดส่วน SG&A/ยอดขายที่ทรงตัวอยู่ที่ 19% โดยมองว่า ความเสี่ยงของประมาณการกำไรอยู่ที่ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน ซึ่งมักจะพุ่งสูงขึ้นในไตรมาสที่สี่ จากการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของกำไรพบว่า สัดส่วนค่าใช้จ่ายเนินงาน/ยอดขายที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 1% จะทำให้กำไรสุทธิลดลงถึง 8 % ยังไม่สามารถจะเพิ่มธุรกิจในจีนได้ดีนักหลังจากที่ออกแคมเปญส่งเสริมการขายไปเมื่อกลางปี2560 ส่วนการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน ICUK เป็น 84% ตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 เป็นความเสี่ยงกำไรปี 2561 เนื่องจาก ICUK ยังขาดทุนหนักอยู่(ประมาณ 620 ล้านบาทใน 9M60 หรือ 850 ล้านบาทในปี 2560F ซึ่ง CBG รับรู้ผลขาดทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น 51%)
ทั้งนี้พัฒนาการของธุรกิจในอังกฤษคือยอดขาย/เดือนที่เพิ่มขึ้นจาก 0.37/0.87/1.4ล้านกระป๋องใน2Q60/3Q60/4Q60F แม้ว่ายอดขายจะเริ่มเพิ่มขึ้นบ้าง แต่หากเปรียบเทียบกับการเติบโตของค่าใช้จ่ายแล้ว ทำให้เห็นว่า CBG ต้องเพิ่มรายได้จากธุรกิจอังกฤษกว่า 2 เท่าตัว Valuation & Action เมื่อนำประมาณการ 4Q60F เข้ามารวมคำนวณ จะทำให้ผลประกอบการปี 2560 ต่ำกว่าประมาณการของเรา 6% และต่ำกว่า consensus 3% ดังนั้นบริษัทจะต้องทำยอดขายทั้งในจีนให้เพิ่มขึ้นอย่างมากเพื่อชดเชยผลขาดทุนจากธุรกิจในอังกฤษ จึงประเมินคร่าวๆ ว่า CBG ต้องเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้ได้ประมาณ 2.5-3% เพื่อให้ถึงจุดคุ้มทุน พร้อมให้ราคาเหมาะสมที่ 12 เดือนข้างหน้าที่ 82.50 บาท/หุ้น