5 อันดับข่าวเด่นมิติหุ้นภาคบ่าย

382

อันดับที่ 1 3 กูรูแนะเก็งกำไร TOP ให้เป้าสูงสุด 108 บาท/หุ้น

มิติหุ้น-บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า กำไรสุทธิของ บมจ.ไทยออยล์ หรือ TOP ใน 4Q60 อยู่ที่ 6.9 พันล้านบาท(+19% YoY, -9% QoQ) สูงกว่า Bloomberg consensus 4% และสูงกว่า ประมาณการของเรา 6% โดยมีสาเหตุ สำคัญมาจากกำไรจากสต็อก3.3 พันล้านบาท (เราคาดไว้ แค่ 1.5 พันล้านบาท) ในขณะที่กำไรที่เพิ่มขึ้น YoY มีสาเหตุสำคัญมาจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 677 ล้านบาท จากที่มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 870 ล้านบาทใน 4Q59 แต่อย่างไรก็ตาม กำไรที่ลดลง QoQ เนื่องจากค่าใช้จ่าย SG&A สูงขึ้นซึ่งถึงแม้ว่ากำไรสุทธิ 4Q60 จะดีกว่าทั้ง Blomberg consensus และประมาณการของเรา แต่เรายังคงคำแนะนำ  “ถือ” TOP และ ให้ราคาเป้าหมายปี 2561 ที่ 95.00 บาท ด้าน บล.เอเอสแอล ระบุว่า ทำให้เราปรับคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “เก็งกำไร” ขณะที่ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” TOP  ราคาพื้นฐาน 105 บาท

อันดับที่ 2 บล.กสิกรไทย คาด SET กลางปีมีโอกาสทดสอบ 1,850 จุด ประเมินกำไรกลุ่มแบงก์โดดเด่น รับเศรษฐกิจขยายตัว-ดอกเบี้ยขาขึ้น

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.กสิกรไทย โดยนายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ ประเมินแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1,850 จุด โดยมองว่ามีโอกาสขึ้นไปทดสอบที่ระดับดังกล่าวได้ในช่วงกลางปีนี้ เนื่องจากตั้งแต่ช่วงเดือนมี.ค.เป็นต้นไป จะมีเม็ดเงินลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย โดยประเมินจากช่วง 9 ปีที่ผ่านมา มีเม็ดเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือนมี.ค.เฉลี่ยที่ 1.7  หมื่นล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม  ขณะเดียวกัน ยังได้ประเมินผลประกอบการของกลุ่มแบงก์พาณิชย์โดยรวมในปี 61 กำไรจะฟื้นตัวราว 11% จากปีก่อนที่กำไรติดลบ 5.5% อัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อในปี 61 ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น  ทั้งนี้ บล.กสิกรไทย ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มแบงก์พาณิชย์เนื่องจากให้ผลตอบแทนดี ประกอบกับมีการจากปันผลสูง โดยมีหุ้นเด่นอย่าง BBL-KTB-TISCO

อันดับที่ 3 กูรูชี้ SPCG ไตรมาส 4/60 กำไรนิวไฮ กางแผน 61 ลงทุนโซลาร์ฟาร์ม 480 เมกะวัตต์ในญี่ปุ่น โบรกชี้เป้า 27.25 บาท

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เอสพีซีจี หรือ SPCG ราคาหุ้นช่วงเช้าปรับตัวขึ้น 24.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท หรือ 3.83% โดยนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง  คาดว่านักลงทุนซื้อเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส4/2560 คาดว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยประเมินกำไรสุทธิ 678 ล้านบาทเทียบกับไตรมาส 3/2560 มีกำไรสุทธิในระดับ 544 ล้านบาท ส่วนภาพรวมทั้ง 2560 คาดมีกำไรสุทธิ 2,316 ล้านบาท ทั้งนี้ ภายหลังการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท จะส่งผลให้ Kyocera เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทในสัดส่วนประมาณ 6.87% จากปัจจุบันที่ถือหุ้นในสัดส่วน 1.46% นอกจากนี้แล้ว SPCG ยังได้แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2561 ได้มีมติส่วนในปี 2561 มีแผนลงทุนโซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่น 480 เมกะวัตต์ และลุยลงทุนโซลาร์รูฟท็อปภายในประเทศ และยังคงเติบโตได้จากการลงทุนที่ผ่านมา โดยประเมินกำไรสุทธิในปี 2561 ไว้ที่ 2,568 ล้านบาท พร้อมกับคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 27.25 บาท

อันดับที่ 4 EE ราคาดีดเกือบ 6% ภายใน 1 วัน ด้านบิ๊กEE แย้มรายได้ปีนี้โตกว่าปีก่อน หลังรับรู้โรงไฟฟ้าเต็มปี

ผู้สื่อข่าว”มิติหุ้น”รายงานว่าความเคลื่อนไหว หรือ EE  ช่วงเช้านี้พบว่า ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีราคาสูงสุดอยู่ที่ 0.71บาท จากราคาปิดวานนี้อยู่ที่ 0.67 บาท  เพิ่มขึ้น 0.04บาท หรือ 5.97%  ด้านแหล่งข่าวอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ปีนี้จะเติบโตมากกว่าปีก่อน โดยมีปัจจัยหนุนจากการรับรู้รายได้ของธุรกิจโรงไฟฟ้า อย่าง SSUT ที่เดินเครื่องกำลังการผลิตได้เต็มปี  อีกทั้งยังได้ราคาขายที่ดีกว่าปีก่อนเป็นอย่างมาก  ขณะเดียวกันบริษัทยังมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจเพิ่มเติม ในรูปแบบพลีงงานทดแทน เพื่อหวังให้ผลประกอบการออกมาแข็งแกร่งในทุกปี

อันดับที่ 5 SSI แจ้งความคืบหน้าตามแผนฟื้นฟูปี 60

มิติหุ้น-บมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี หรือ SSI แจ้งว่า ได้ขอรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการประจำไตรมาสปี4/2560 ดังต่อไปนี้ 1.บริษัทได้ชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ ในเดือน ต.ค.,พ.ย.,และธ.ค. 2560 เป็นเงินต้นรวม 383.32 ล้านบาท และดอกเบี้ย 21.84ล้านบาท โดยรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 405,16 ล้านบาท ทั้งนี้ในปี 2560 บริษัท(ก)ชำระหนี้ตามกำหนดเป็นเงินต้นรวม 1,538.88 ล้านบาท ดอกเบี้ยรวม 95.23 ล้านบาท และ (ข) ชำระหนี้ตามก่อนกำหนดจากกระแสเงินสดส่วนเกิน สำหรับงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 2560 เป็นเงินต้นจำนวน 279.5 ล้านบาทรวมทั้งปี 2560 ได้ชำระหนี้แก่เจ้าหน้าที่ทั้งสิ้นประมาณ 1,913.616 ล้านบาท 2.ดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อทำการแปลงหนี้เป็นทุนครั้งที่ 1 ตามข้อ 7.3(3) ของแผนฟื้นฟูกิจการ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน ตามแผนฟื้นฟูกิจการจนทำให้ถือครองหุ้นสามัญของบริษัทคิดเป้นสัดส่วนเกินกว่าร้อยละ 25 ของสิทธิออกเสียงทั้งหมด มีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทฯ หรือดำเนินการยื่นคำขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท