BGRIM ดันEBITDAโต28% แนะซื้อ-อัพเป้า39บ.

287

มิติหุ้น – BGRIM ตั้งเป้าดัน EBITDA ปีนี้โต 28% ขณะที่รายได้ทะยาน 25% ตามกำลังการผลิตไฟฟ้าที่มี PPA ในมือกว่า 2,513 เมกะวัตต์ รุกปิดดีลโซลาร์ฟาร์มเวียดนาม–มาเลเซีย พร้อมลุยเจรจาลงทุนผลิตไฟฟ้า SPP นิคมอุตสาหกรรมพื้นที่ EEC หนุนผลงานโตก้าวกระโดด กูรูแนะนำ “ซื้อ” อัพเป้า 39 บาท

 

          ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. บี.กริม เพาเวอร์ หรือ BGRIM นายชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์และส่วนตลาดทุน เปิดเผยว่า ในปีนี้ตั้งเป้ารักษากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม หรือ EBITDA ให้เติบโตในระดับ 28% และคาดว่ารายได้จะเติบโตใกล้เคียงกับกำลังการผลิตในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นที่ 25%

ปัจจุบันมีโครงการโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วทั้งสิ้น 30 โครงการ มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 1,646 เมกะวัตต์ และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ในมือ 51 โครงการ ราว 2,513 เมกะวัตต์

ลุย COD ดันรายได้โตกระโดด

ทั้งนี้ ในปี 2561 จะ COD ทั้งหมด 5 โครงการ 445 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมบีกริมเพาเวอร์ เฟส 3-4-5 ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้จังหวัดระยอง จำนวน 399 เมกะวัตต์ คาดว่ามีรายได้โครงการละ 3,000 ล้านบาทต่อปี ล่าสุดเริ่ม COD เฟส3 ไปแล้ว 133 เมกะวัตต์ เมื่อ 1 ก.พ. 2561 ขณะที่เฟส 4-5 ทยอย COD ในเดือนมี.ค. และ ต.ค.2561 ตามลำดับ

นอกจากนี้ เตรียม COD โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำแจที่ สปป.ลาว ขนาดกำลังการผลิต 15 เมกะวัตต์ และโครงการโซลาร์ฟาร์มราชการและสหกรณ์การเกษตรเฟส 2 ขนาดกำลังการผลิต 31 เมกะวัตต์ โดยจะทยอย COD ตั้งแต่ต้นปีถึงปลายปี 2561

จากการลงทุนอย่างต่อเนื่องและกำลังการผลิตไฟฟ้าที่มี คาดว่าจะส่งผลให้ในปี 2562 เป็นปีที่มีรายได้จะเติบโตแบบก้าวกระโดด

รุกหนักขยายลงทุนไทย-ตปท.

อย่างไรก็ตาม เพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่อง BGRIM ได้มองหาโอกาสการลงทุนเพิ่มเติม ทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยในต่างประเทศบริษัทยังอยู่ระหว่างดำเนินการทำข้อตกลงลงทุนกับพันธมิตรในเวียดนามที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้วหลายรายสำหรับการลงทุนโซลาร์ฟาร์มขนาดใหญ่ระดับ 100 เมกะวัตต์ขึ้นไป

ส่วนแผนลงทุนโซลาร์ฟาร์มในมาเลเซีย ปัจจุบันตกลงกับพันธมิตรได้แล้ว รอเพียงความชัดเจนการเลือกตั้งของมาเลเซีย ส่วนการลงทุนสร้างระบบสายส่งให้กับนิคมอุตสาหกรรมปอยเปต ประเทศกัมพูชา คาดเริ่มจ่ายไฟฟ้าได้ในเดือน มี.ค.นี้

ส่วนการลงทุนในประเทศไทย ต้องรอความชัดเจนแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี) ใหม่ เบื้องต้น ได้เจรจากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และเอกชนผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรมไว้หลายรายในการลงทุนพัฒนาโรงไฟฟ้า SPP รวมถึงการลงทุนระบบสมาร์ทกริด สมาร์ทซิตี้ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

        โบรกฯ แนะ“ซื้อ” อัพเป้า 39 บ.

ด้านฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ประเมินว่า ในปี 2561 คาดอัตรากำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 7.7%  ซึ่งจะผลักดันกำไรเติบโต 30% ในปี 2560-2563  คาดว่าราคาก๊าซ น้ำมัน และถ่านหินที่สูงขึ้น รวมถึงการเพิ่มสัดส่วนของพลังงานทางเลือกในระบบการผลิตไฟฟ้าของไทย จะช่วยให้อัตราค่าไฟฟ้าสูงขึ้น รวมถึงปัจจัยหนุนจากโครงการโรงไฟฟ้า SPP ทั้ง 3 โครงการ ดังนั้น ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” และขยับราคาเป้าหมายสูงขึ้นเป็น 39 บาท

www.mitihoon.com