จากความเห็นของ “ผู้โดยสาร” เกือบ 100% แฮปปี้กับบริการนี้ เพราะให้ความปลอดภัยต่างๆ เช่น อุปกรณ์แสดงตัวผู้ขับที่ใช้กับใบอนุญาตขับรถสาธารณะ ที่ขนส่งออกให้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย, GPS Tracking ซึ่งเป็นระบบติดตามรถแบบ Real-time, ระบบกล้องถ่ายภาพภายในรถแบบ Snapshot เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ขับรถและผู้โดยสาร, ปุ่มฉุกเฉินหรือปุ่ม Emergency สำหรับผู้โดยสารที่สามารถส่งข้อมูลมายังศูนย์ให้บริการรถแท็กซี่เพื่อขอความช่วยเหลือได้แบบทันที, กฏขับรถความเร็วไม่เกิน 90 กม. และ มิเตอร์แสดงค่าโดยสารได้เบื้องต้น
TAXI OK มีอัตราค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 35 บาท
ส่วน TAXI VIP มีอัตราค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 150 บาท
ทั้งคู่มีค่าเรียกผ่านแอพพลิเคชั่น ครั้งละ 20 บาท
รถแท็กซี่ที่มีอยู่ในระบบในกรุงเทพฯ มี 100,000 คัน โดยสิ้นปี 2560 มีแท็กซี่หมดอายุ 35,000 คัน (40% ของแท็กซี่ในระบบ) และสิ้นปี 2561 มีรถหมดอายุ 40,000 คัน (80% ของแท็กซี่ในระบบ) ซึ่งเท่ากับว่าในปี 2562 แท็กซี่ในระบบจะขึ้นทะเบียบใน “โครงการ TAXI OK” ทั้งหมด
จากการสำรวจพบว่า “คนขับแท็กซี่” บางส่วนกลับไม่ปลื้ม“โครงการ TAXI OK” เพราะ “คนขับไม่โอเค” ที่เงินในกระเป๋าจะต้องหมดไปเพื่อเข้าร่วมโครงการนี้ เนื่องจากแท็กซี่ที่จดทะเบียนใหม่ต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมดกว่า 50,000 บาท แบ่งเป็น ค่าอุปกรณ์+ติดตั้ง 29,000บาท ค่าอินเทอร์เน็ตรายเดือน 450-500 บาท ค่าบำรุงระบบรายปี 3,600 บาทต่อเดือน และค่างวดรถ 18,000 บาท เอาซะ “คนหาเช้ากินค่ำ” เงิบกันไปเลย
โชเฟอร์แท็กซี่ก็อดทนกับโครงการที่ดูๆ แล้ว “ขูดเลือดขูดเนื้อ” ไม่ไหว จนล่าสุด “คณะกรรมการสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่” ออกมาเรียกร้องให้กรมการขนส่งทางบก พิจารณายกเลิกข้อบังคับ เพราะต่างระบุว่า “โครงการ Taxi OK” ทำให้แท็กซี่จดทะเบียนใหม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก โดยขอแนะนำให้กรมการขนส่งทางบกเปลี่ยนเป็นสองทางเลือกนี้จะประหยัดเงินผู้ขับแท็กซี่มากกว่า
ทางเลือกที่ 1 เปลี่ยนมาเป็นการให้แท็กซี่เข้ารับการอบรมพฤติกรรมแทน
ทางเลือกที่ 2 ปรับมาใช้แอป Pro Taxi ที่รองรับเหมือนอุปกรณ์เสริมที่ต้องติดตั้งในโครงการ Taxi OK ที่กรมการขนส่งทางบกกับภาคเอกชนสนับสนุนอยู่ก่อนหน้าแล้ว
ผู้โดยสารโอเคนะ หวังเพียงโบกแล้วไม่โดนปฏิเสธ ว่าแก๊สหมด รึส่งรถ ไม่โดนโกงมิเตอร์ แค่นี้มาตรฐานแท๊กซี่ก็ดีแล้ว แต่เหมือนฝั่งพี่แท๊กซี่จะยังไม่โอเค
สุดท้ายนี้ไม่ว่าจะโดยสารรถใดก็ตาม ขอให้ผู้โดยสารและคนขับถึงที่หมายโดยปลอดภัยนะครับพี่แท๊กซี่
ที่มา : https://www.dlt.go.th/th/public-news/view.php?_did=1938
https://www.dlt.go.th/th/public-news/view.php?_did=1916
https://www.dlt.go.th/th/public-news/view.php?_did=1850
