อันดับที่ 1 DRT รับปัจจัยหนุนลูกค้าโมเดิร์นเทรดดันยอดขายโต โบรกฯเชียร์เป้า 6.50 บ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ราคาหุ้น บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร หรือ DRT การซื้อขายภาคเช้าปรับตัวขึ้นสูงสุด 6.05 บาท ล่าสุด (12.00 น.) ราคาอยู่ที่ 6.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท หรือ +2.56% ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 12.64 ล้านบาท นักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประเมินแนวโน้มผลประกอบการ DRT ปี 2561 ยังได้แรงหนุนจากการเติบโตของลูกค้าโมเดิร์นเทรด และลูกค้าโครงการที่มีการเติบโตดี ส่วนตลาดส่งออกและลูกค้าเอเย่นต์ในปี 2561 คาดจะมีการฟื้นตัว ประเมินยอดขายจะอยู่ที่ระดับ 4,347 ล้านบาท เติบโต 4% และ มีกำไรสุทธิ 444 ล้านบาท เติบโต 8%ทั้งนี้ DRT มีที่ดินเปล่า จำนวน 36 ไร่ ที่ บ่อวิน จังหวัดชลบุรี โดยมีต้นทุนต่ำเพียง 7 แสนบาท ซึ่งปัจจุบันราคาได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” ในลักษณะลงทุนรับปันผล ประเมินราคาเป้าหมาย 6.5 บาท บนฐาน P/E 14 เท่า
อันดับที่ 2 NCL ปีนี้วางหมากเดินเกมรุก มั่นใจเทิร์นอะราวด์-ปั้นรายได้โต 10-20 %
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NCL โดย นายกิตติ พัวถาวรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจปีนี้จะสามารถพลิกมีกำไร พร้อมตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-20% จากการปรับโครงสร้างธุรกิจจึงทำให้ บริษัทลูกที่เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมกันนี้ทางบริษัทยังได้ขยายฐานลูกค้าใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในต่างประเทศ โดยวานนี้ทางบริษัทได้มีมติแล้วว่า จะเข้าไปลงทุนสาขา ใน3 ประเทศ ได้แก่ จีน สหรัฐอเมริกา และ อิโดนิเซีย โดยจะใช้งบลงทุนทั้งสิ้น 1.26 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยระเริ่มลงทุนตั้งแต่ต้นไตรมาส 2/2561 และ และจะรับรู้รายได้เข้ามาทันทีภายในไตรมาส 2/2561
อันดับที่ 3 TVO รับอานิสงส์ราคาถั่วเหลืองพุ่งแรง-บาทแข็งหนุน กูรูแนะนำ ซื้อ ให้เป้า 34 บ.
ผู้สื่อข่าว”มิติหุ้น”รายงานว่า บล.กรุงศรี ได้ประเมินภาพรวม ของ บมจ.น้ำมันพืชไทย หรือ TVO พบว่าแนวโน้ม ธุรกิจในปีนี้จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากแนวโน้มราคาถั่วเหลือง และกากถั่วเหลืองที่อยู่ในขาขึ้น จึงส่งผลให้ยอดขายและอัตรากำไรขึ้นต้นของTVO เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ยังมองว่าบริษัทTVO มีศักยภาพในการเติบโตระยะยาวจากการขยายกำลังการผลิตในประเทศไทยเพิ่มอีก เพราะ TVO กำลังมองหาที่ดินเพื่อสร้างโรงงานใหม่ และขยายกำลังการผลิตอีก 40-50% จากปัจจุบันที่ 6,000 ตัน/วันจึงแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมายพื้นฐาน 34 บาท/หุ้น ขณะที่ บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) ระบุว่า กลุ่มรับอานิสงส์บาทแข็ง ประเมินค่าเงินบาทที่แข็งค่าเทียบค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯในขณะนี้ เป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มนำเข้าสินค้าและวัตถุดิบจากต่างประเทศ โดยมีราคาอยู่ที่ 33 บาท เพิ่มขึ้น 0.75บาท หรือ 2.33% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 20.95 ล้านบาท
อันดับที่ 4 III จ่อปิดดีลซื้อกิจการในตปท. 2-4ราย คาดสรุปกลางปีนี้
ผู้สื่อข่าว”มิติหุ้น”รายงานว่า บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III โดย นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทคาดอัตรากำไรสุทธิปีนี้จะสูงกว่าปีก่อนที่ 5.6% พร้อมวางเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้นไม่ตำกว่า 20% พร้อมทั้งประเมินว่ารายได้จะเติบโตกว่าปีก่อนประมาณ 20% ทั้งนี้ธุรกิจการขนส่งสินค้าทางทะเล คาดว่าจะเติบโต 50% โดยขณะนี้บริษัท อยู่ระหว่างดำเนินการขยายคลังสินค้าเพิ่มขึ้นอีก 3,000 ตารางเมตรจึงทำให้พื้นที่คลังสินค้าเคมีภัณฑ์และสินค้าอันตรายให้บริการไม่ต่ำกว่า 25,000 ตร.ม. พร้อมกันนี้บริษัทยังเตรียมงบลงทุนไว้ทั้งสิ้น 505 ล้านบาท เพื่อนำมา ขยายคลังสินค้าเพิ่มขึ้นอีก 3,000 ตร.ม.และยังบริษัทยังมีแผนที่จะขยายคลังสินค้าระหว่างประเทศเพิ่มเติม โดยจะยื่นขออนุญาตจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เพื่อสร้างคลังสินค้าในสนามบินนานาชาติอื่นๆเพิ่มขึ้น 2 แห่งในภาตเหนือและใต้ ซึ่งคาดว่าภายในกลางปีนี้จะได้เห็นความชัดเจน ขณะเดียวกันทางบริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจาผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจคลังสินค้าระหว่างประเทศประมาณ 2-4ราย เพื่อจะเข้าซื้อกิจการ
อันดับที่ 5 PCSGH ปี60 กำไรแข็งแกร่งโต 40%
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รานงานว่า บริษัท พี.ซี.เอส.แมชีน กรุ๊ปโฮดิ้ง หรือ PCSGH โดยแหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส4/2560 ของ PCSGH คาดว่าจะมีกำไรสุทธิเติบโตใกล้เคียงกับไตรมาส 3/2560 ที่มีกำไรสุทธิ 170 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมปี 2560 คาดกำไรสุทธิเติบโตเพิ่มขึ้น 40% เทียบกับปี 2559 มีกำไรสุทธิ 382 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มปี 2561 จะเติบโตตามทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์ที่คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นเนื่องจากรถคันแรกครบ 5 ปีซึ่งมีโอกาสที่ผู้ครอบครองรถคันแรกจะซื้อรถใหม่ ขณะที่ยอดส่งออกต่างประเทศก็เติบโตขึ้นหนุนการเติบโตของ PCSGH ได้อย่างมีนัยสำคัญ ด้านฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง ประเมินทิศทางผลประกอบการหุ้น PCSGH ในช่วงไตรมาส4/2560 คาดมีกำไรสุทธิ 178 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 28% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 5% ไตรมาส3/2560 ดังนั้นฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์จึงแนะนำซื้อที่ราคาเป้าหมาย 9.50 บาท