BANPU ราคาถ่านหินขึ้นแรง ดันกำไรโตระเบิด!

603

มิติหุ้น – BANPU แนวโน้มผลงานไตรมาส 4/60 ดีสุดของปี หนุนกำไรทั้งปีโตระเบิด 369% อานิสงส์ราคาถ่านหินทรงตัวระดับสูง แรงหนุนจากบริษัทลูกอีกทาง โบรกฯ มองความต้องการใช้ถ่านหินยังสูง คาดดันกำไรโตต่อเนื่อง แนะนำ “ซื้อ” เป้า 24 บาท แต่ยังมีคดีหงสาฯ กดดัน

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.บ้านปู หรือ BANPU โดยแหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการของ BANPU มีทิศทางเติบโตดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากราคาถ่านหินปรับตัวสูงขึ้น โดยปัจจุบันเฉลี่ยที่ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน จากปีก่อนเฉลี่ย 88 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน

คาด Q4/60 “ดีสุด” ของปี

ทั้งนี้ จากปริมาณการขายและราคาถ่านหินที่ทรงตัวในระดับสูง ไตรมาส 4/60 คาดจะเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปีนอกจากนี้ ได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจโรงไฟฟ้าของ บมจ.บ้านปูเพาเวอร์ (BPP) เนื่องจากกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าหงสาใน สปป.ลาว มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีกำลังการผลิตจากโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในจีนและญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น

ลุ้นกำไรโต 369% – หงสาฯยังเสี่ยง

ด้านนายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ประเมินไตรมาส 4/60 BANPU มีกำไรสุทธิ 2,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 24% เทียบไตรมาส 3/60 ที่มีกำไรสุทธิ 2,025 ล้านบาท เนื่องจากราคาถ่านหินตลาดโลกทรงตัวระดับสูงที่ 90-100 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และราคาขายของ BANPU อยู่ในระดับ 75 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ปริมาณขายเพิ่มขึ้น 8% เทียบไตรมาส 3/60 นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยหนุนจาก BPP ที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นและมีศักยภาพที่ดี

ส่วนภาพรวมทั้งปีคาดกำไรสุทธิ 8,228 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 369% ขณะปี 2561 คาดความต้องการถ่านหินยังคงสูงอยู่ ราคาถ่านหินคาดเฉลี่ยระดับ 85 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ยังคงเป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการปีนี้ คาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 16% พร้อมกับนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 24 บาท

อย่างไรก็ตาม คดีโรงไฟฟ้าหงสาใน สปป.ลาวยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการลงทุน จึงส่งผลต่อราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มาก

www.mitihoon.com