อันดับที่ 1 BH Q1/61 โตแกร่ง เล็งปรับค่ารักษา 5%
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ หรือ BH โดยนายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการนักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้น BH ไตรมาส1/2561 มีแนวโน้มเติบโตดีกว่าไตรมาส4/2560 มีกำไรสุทธิ 923.08 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาส1เป็นช่วงไฮซีซั่นผู้ป่วยทั้งในไทยและต่างประเทศเริ่มกับมาฟื้นตัวดีขึ้น ขณะเดียวกันนี้ตามปกติในช่วงไตรมาส1 BH จะปรับค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น 5% ซึ่งเป็นปัจจัยหนุน EBITDA MARGIN เพิ่มขึ้นราว 35% จากไตรมาส4/2560 อยู่ในระดับ 30.5% นอกจากนี้ BH ยังได้มีการปรับปรุงห้องผู้ป่วยนอกให้เป็นห้องผู้ป่วยในเพิ่มขึ้นซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนใน่ชวงไตรมาส1 และภาพรวมของทั้งปี 2561 ด้วย เนื่องจากผู้ป่วยในจะมีมาร์จิ้นดีกว่าผู้ป่วยนอก หนุนภาพรวมการเติบโตในปีนี้ได้เป็นอย่างดี โดยฝ่ายวิจัยประเมินกำไรสุทธิปีนี้จะเติบโตที่ 4,406 ล้านบาท เทียบกับปี 2560 มีกำไรสุทธิ 3,943 ล้านบาท พร้อมกับคำแนะนำซื้อที่ราคาเป้าหมาย 230 บาท
อันดับที่ 2 LIT ตั้งเป้ารายได้-พอร์ตสินเชื่อปีนี้โตทะลุ 20% พร้อมเล็งย้ายกระดานเทรดไป SET
ผู้สื่อข่าว”มิติหุ้น”รายงานว่า บริษัท ลีซ อิท จำกัด (มหาชน) หรือ LIT โดยนายสมพล เอกธีรจิตต์ กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้และพอร์ตสินเชื่อในปีนี้จะเติบโตได้กว่า 20% จาก จากความต้องการสินเชื่อของลูกค้าเอสเอ็มอีที่เพิ่มมากขึ้น และจากการที่รัฐบาลเดินหน้าขยายการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจ็กต์) โดยบริษัทฯมุ่งมั่นที่จะดำเนินการเพื่อย้ายหลักทรัพย์จดทะเบียนของ LIT จากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ไปยังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และบริษัทมุ่งมั่นที่จะดำเนินการจัดอันดับเครดิตให้อยู่ในระดับ Investment Grade ภายใต้กรอบ กลยุทธ์ระยะยาว 3 ปี (61-63) ด้วยกลยุทธ์แรกมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainable Growth) บริษัทฯ จะเติบโตในเชิงของรายได้เฉลี่ย 20% และกำหนดพอร์ตลูกหนี้สินเชื่อรวมให้ไปถึง 2,690 ล้านบาทและกำหนดเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อมากกว่า 13,000 ล้านบาท กลยุทธ์ที่สอง มุ่งยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน (Increase Competitiveness)
อันดับที่ 3 BANPU โชว์กำไรปี 60 พุ่ง 373% วงในเชื่อปีนี้ผลงานใส แนะนำซื้อ ให้เป้า 24บ.
ผู้สื่อข่าว”มิติหุ้น” รายงานความเคลื่อนไหว บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ช่วงเช้านี้ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ภายหลังจากที่ ได้แจ้งผลการดำเนินงานช่วงปี 2560 มีกำไร 7.9 พันลบ. จากปีก่อนที่มีกำไร 1.67 พันลบ. หรือเพิ่มขึ้น 373% ขณะเดียวกันยังจ่ายปันผลหุ้นละ 0.35 บ. ขึ้น XD 10 เม.ย. 61 ด้านนายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ประเมินไตรมาส4/2560 BANPU มีกำไรสุทธิ 2,500 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 56% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 24 เนื่องจากราคาถ่านหินตลาดโลกทรงตัวอยู่ในระดับสูงเฉลี่ยที่ 90-100 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันและราคาขายของ BANPU อยู่ในระดับ 75 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันปริมาณขายเพิ่มขึ้น 8%เทียบกับไตรมาส3/2560 นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยหนุนจาก BPP ที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นและมีศักยภาพที่ดี พร้อมกับคำแนะนำซื้อที่ราคาเป้าหมาย 24 บาท ด้านนางสาวนลินรัตน์ กิตติกำพลรัตน์ บล.เอเชีย พลัส กรุ๊ปโฮลดิ้งส์ แนะนำซื้อหุ้น BANPU ที่ราคาเป้าหมาย 26 บาท
อันดับที่ 4 TACC อวดงบไตรมาส 4/60 กำไร 112.47 ล้านบาท กางแผนปี 61 ปั้มรายได้โต 10%
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ หรือ TACC ราคาหุ้นภาคเช้า ณ เวลา 11.50 น.ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 4.88 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ 8.93% โดยนายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 60 บริษัทมีรายได้รวม 1,289.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105.55 ล้านบาท หรือ 8.91% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายจำนวน 1,183.94 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 112.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.64 ล้านบาท หรือ 10.45% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 101.93 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทได้ตั้งเป้าปี 61 รายได้โต 10% จากปีก่อน โดยบริษัทมีแผนพัฒนาสินค้า ใหม่เข้าสู่ตลาดประมาณ 2-3 ผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทมีมติจ่ายเงินปันผล ในอัตรา 0.09 บาท/หุ้น โดยขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 25 เมษายน 2561 ด้านนางสาวศศิมา หัตถกิจนิกร บล.ฟิลลิป ประเมินแน้วโน้มราคาหุ้น TACC มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีสัญญาณซื้อต่อเนื่อง วอลุ่มหนาแน่น แนะนำให้ซื้อเก็งกำไร ประเมินแนวต้าน 5.30 บาท
อันกับที่ 5 JWD ปี61 เข้าโหมดธุรกิจเชิงรุก โบรกฯเคาะเป้า14.20บ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ หรือ JWD ราคาหุ้นเปิดตลาดเช้าปรับตัวขึ้นสูงสุด 11.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ +3.50% ล่าสุด (11.40 น.) ราคาอยู่ที่ 11.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ +0.88% ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 12.83 ล้านบาท โดยผู้บริหารบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี2561 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% และยังวางงบลงทุนไว้ราว 1 – 1.5 พันล้านบาท นักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินธุรกิจ JWD หลังโชว์กำไรสุทธิปี 2560 ทำสถิติสูงสุดที่ 612.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 8.9 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม คาดแนวโน้มกำไรปกติไตรมาส 1/61 ยังทรงตัว ทั้งนี้ อีกทั้งบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลงวดไตรมาส 4/60 ที่ 0.10 บาท กำหนด XD วันที่ 4 พ.ค. ซึ่งบริษัทมีแผนลงทุนเชิงรุก รวมถึงแผนลงทุนในธุรกิจพลังงานทางเลือก ดังนั้น คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 14.20 บาท