ผู้สื่อข่าว”มิติหุ้น” รายงานความเคลื่อนไหว บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ช่วงเช้านี้ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ภายหลังจากที่ ได้แจ้งผลการดำเนินงานช่วงปี 2560 มีกำไร 7.9 พันลบ. จากปีก่อนที่มีกำไร 1.67 พันลบ. หรือเพิ่มขึ้น 373% ขณะเดียวกันยังจ่ายปันผลหุ้นละ 0.35 บ. ขึ้น XD 10 เม.ย. 61
ด้านนายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ประเมินไตรมาส4/2560 BANPU มีกำไรสุทธิ 2,500 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 56% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 24% เทียบกับไตรมาส3/2560 ที่มีกำไรสุทธิ 2,025 ล้านบาท เนื่องจากราคาถ่านหินตลาดโลกทรงตัวอยู่ในระดับสูงเฉลี่ยที่ 90-100 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันและราคาขายของ BANPU อยู่ในระดับ 75 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันปริมาณขายเพิ่มขึ้น 8%เทียบกับไตรมาส3/2560 นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยหนุนจาก BPP ที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นและมีศักยภาพที่ดี
ส่วนภาพรวมทั้งปี2560คาดกำไรสุทธิ 8,228 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 369% ขณะปี 2561 คาดความต้องการถ่านหินยังคงมีความต้องการสูง ราคาถ่านหินคาดว่าจะเฉลี่ยในระดับ 85 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลยังคงเป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการปีนี้คาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 16% หรือ 9,574 ล้านบาท พร้อมกับคำแนะนำซื้อที่ราคาเป้าหมาย 24 บาท อย่างไรก็ตามคดีโรงไฟฟ้าหงสาในสปป.ลาวยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการลงทุนจึงส่งผลต่อราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มาก
นางสาวนลินรัตน์ กิตติกำพลรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย พลัส กรุ๊ปโฮลดิ้งส์ แนะนำซื้อหุ้น BANPU ที่ราคาเป้าหมาย 26 บาท ทั้งนี้คาดว่าในปี 2561 กำลังการผลิตถ่านหินในประเทศอินโดนีเซียจะเพิ่มขึ้นที่ระดับ 26 ล้านตันต่อปี จากปีนี้ที่ระดับ 25 ล้านตันต่อปี นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยหนุนจากบริษัท BPP ที่มีการขยายลงทุนโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยประเมินกำไรสุทธิปี 2560 ไว้ที่ 8,300 ล้านบาทและปี 2561 ประเมินกำไรสุทธิ 9,900 ล้านบาท
www.mitihoon.com