บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์(บล.)ฟิลลิป(ประเทศไทย) แนะนำ “ทยอยซื้อ” MEGA ราคาพื้นฐาน 44 บาท จากการงายงานผลประกอบการไตรมาส 4/2560 มียอดขายรวม 2,699 ล้านบาท บวก 4% และต้นทุนขายลดลง 3.5 % มาอยู่ที่ 1,437 ล้านบาท ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น(GPM)เพิ่มขึ้น 42.6 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทว่า ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร หรือ SG&A ต่อยอดขาย ขยับสูงขึ้นเล็กน้อยที่ 29.3 % จากไตรมาส4/2559 ที่ 29.1 % บวกกับขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนอีกราว 25 ล้านบาท จากในไตรมาส4/2559 ที่ขาดทุนเพียง 8 ล้านบาท ทำให้ในไตรมาส4/2560 กำไรอยู่ที่ 383 ล้านบาท + 29.7 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน(หากไม่นับรวมผลกระทบอัตราแลกเปลี่ยนดังกล่าว กำไรปกติไตรมาส4/2560 จะเท่ากับ 408 ล้านบาท +34.5 %) รวมทั้งปี MEGA มียอดขายเท่ากับ 9,597 ล้านบาท +8.9 % และมีกำไร 1,113 ล้านบาท + 39.9 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน(และกำไรปกติที่ 1,184 ล้านบาท +33.8 % ) สำหรับปันผลช่วงครึ่งหลังปี 2560 บริษัทประกาศจ่ายที่ 0.40 บาท/หุ้น รวมจ่ายทั้งปี 0.70 บาท/หุ้น
อย่างไรก็ตามผลประกอบการที่ออกมาถือว่าใกล้เคียงกับที่ทางฝ่ายวิเคราะห์คาดและในปี 2561 ยังเชื่อกำไรจะโตต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า 26 % มาที่ 1,402 ล้านบาท และคาดกำไรปกติที่ 1,352 ล้านบาท +14.1 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งประเมินว่าตลาดมีความต้องการผลิตภัณฑ์สูง ส่วนราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาพอสมควร ทางฝ่ายปรับลดคำแนะนำลงเป็น “ทยอยซื้อ”จาก “ซื้อ”ราคาพื้นฐานปี 2561 ที่ 44 บาท/หุ้น
ด้านนายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) เปิดเผยผ่านมิติหุ้น LIVEสดเช้านี้ระบุว่า แนะนำ MEGA ซึ่งกำไรปี 2560 ออกมาดีกว่าคาด จึงมองว่ายังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องในปี 2561 และปี 2562 หลังขยายในต่างประเทศ ทั้งในตลาดมาเลเซีย และผลิตภัณฑ์อาหารเสริม รวมถึงยาเวชภัณฑ์ ซึ่งถือว่าเป็นจังหวะที่ภาครัฐสนับสนุนด้วย จึงให้เป้าที่ 48 บาท/หุ้น
ส่วนความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นวันนี้ราคาปรับขึ้นสูงสุดที่ 42.50 บาท/หุ้น บวก 7.5 % ส่วนราคาล่าสุด(14.47 น.)อยู่ที่ 42.50 บาท/หุ้น บวก 2.75 บาท หรือ+6.92 % ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 210.16 ล้านบาท
www.mitihoon.com
