อันดับที่ 1 CPALL ไตรมาส1/61เติบโตต่อเนื่อง กูรูแนะซื้อราคา94บาทแนะซื้อ
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ซีพี ออลล์ หรือ CPALL โดยนายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการนักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประเมินว่า CPALL ในช่วงไตรมาส1/2561 จะเติบโตดีต่อเนื่องจากไตรมาส4/2560 ที่มีกำไรสุทธิ 5,525 ล้านบาท เนื่องจากมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าขยายสาขาเซเว้นอีเลเว้น 700 สาขา พร้อมกับมีสินค้าใหม่ๆเข้ามาขายเพิ่มขึ้นเร่งการเติบโตของรายได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นรวมถึงปัจจัยทางด้านการท่องเที่ยวที่เติบโตจะหนุนยอดขายได้อย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ภาพรวมปี 2561 ประเมินกำไรสุทธิ 22,904 ล้านบาท จากปี 2560 มีกำไรสุทธิ 19,516 ล้านบาท ดังนั้นฝ่ายวิจัยจึงได้แนะนำซื้อที่ราคาเป้าหมาย 94 บาท นอกจากนี้ CPALL ยังประกาศเงินปันผล 1.10 บาทต่อหุ้น พร้อมขึ้น XD วันที่ 27 เมษายน 2561
อันดับที่ 2 PDI กำไรปี 60 ที่ 905.28 ลบ. เพิ่มขึ้นจากปี 59 ที่มีกำไร 477.76 ลบ.
ติหุ้น-บมจ.ผาแดงอินดัสทรี หรือ PDI แจ้งว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4 ของปี 2560 บริษัทมีกำไรสุทธิรวมเท่ากับ 268.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกำไรสุทธิช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 125.54 ล้านบาท เนื่องจากผลดีจากราคาโลหะสังกะสีสกุลเงินดอลาร์สหรัฐฯที่ปรับตัวสูงขึ้น 31 % มาอยู่ที่ 3,234 ดอลาร์สหรัฐฯต่อตัน ส่งผลให้ผลการดำเนินงานทั้งปี 2560 มีผลประกอบการกำไรสุทธิรวมเท่ากับ 905.28 ล้านบาท (กำไรสุทธิต่อหุ้น 4.01 บาท) เพิ่มขึ้น 89 % จากปี 2559 ที่มีกำไรสุทธิ 477.77 ล้านบาท(กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.11 บาท) ขณะที่คอลัมน์เด็กแนวระบุว่า PDI ประเมินว่ากำไรใน Q4/2560 ออกมาดีมากและสะท้อนผลกำไรในปี 2561 ต่อไปทั้งราคาสังกะสี และโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟแล้วใน Q4/2560 ถึง 35 เมกกะวัตต์ และกำลังจะซื้อเพิ่มอีกไม่น้อย จุดเด่นคือค่า PE เพียง 6 เท่าแค่นั้น พร้อมคาดน่าจะมีปันผลสูงกว่า 6% ในรอบนี้ จึงแนะจับตาการลงทุนใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยประเมินว่ามูลค่าหุ้นไม่ควรต่ำกว่า 30 บาท ที่ค่า PE เพียง 8 เท่าเป็นหุ้นถูกที่มีอนาคตไกล มองกราฟกำลังจะขึ้นไปปิด Gap 28 บาทไม่ยากเลย แนะนำซื้อลูกเดียว
อันดับที่ 3 MEGA อวดกำไร 60โต 40 %ปีนี้โตต่อให้เป้า 44-48 บาท/หุ้น
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) แนะนำ “ทยอยซื้อ” MEGA ราคาพื้นฐาน 44 บาท จากการงายงานผลประกอบการไตรมาส 4/2560 ที่ออกมาถือว่าใกล้เคียงกับที่ทางฝ่ายวิเคราะห์คาดและในปี 2561 ยังเชื่อกำไรจะโตต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า 26 % มาที่ 1,402 ล้านบาท และคาดกำไรปกติที่ 1,352 ล้านบาท +14.1 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งประเมินว่าตลาดมีความต้องการผลิตภัณฑ์สูง ส่วนราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาพอสมควร ทางฝ่ายปรับลดคำแนะนำลงเป็น “ทยอยซื้อ”จาก “ซื้อ”ราคาพื้นฐานปี 2561 ที่ 44 บาท/หุ้น
อันดับที่ 4 ILINK ปี60มั่นใจรายได้เข้าเป้า 3.5 พันล้าน ปี 61รายได้โตเกิน 4 พันลบ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ผู้จัดการ บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น หรือ ILINK แผนงานปี 2561 ยังคงตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-15% หรือมากกว่า 4,000 ล้านบาท เนื่องจากมีงานในมือ (Backlog) อยู่ 3,366 ล้านบาท โดยจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ราว 1,000-1,200 ล้านบาท ที่เหลือทยอยรับรู้ไปถึงปี 2563 ส่วนปี 2561 ได้ติดตามและเตรียมเข้าประมูลงานกว่า 10,000 ล้านบาท โดยในเร็วๆนี้เตรียมประมูลงานติดตั้งระบบสมาร์ทกริดและสมาร์ทมิเตอร์ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ที่พัทยา จ.ชลบุรี มูลค่า 900 ล้านบา นอกจากนี้ก็เป็นการประมูลโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) รวมถึงงานติดตั้งระบบสถานีไฟฟ้าย่อย และสายส่งไฟฟ้าแรงดันสูงคาดว่าจะได้งานอย่างน้อย 20-25% ขณะปี 2560 คาดว่ารายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 3,500 ล้านบาท แต่กำไรอาจจะลดลงเนื่องจากได้รับผลกระทบจากผู้ร่วมทุนรับเหมาก่อสร้างโครงการสุวรรณภูมิเฟส2
อันดับที่ 5 BKD ซุ่มคว้างานโปรเจ็กต์น้ำกินยาว 25 ปี
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า “บมจ.บางกอก เดค-คอน หรือ BKD” โดย แหล่งข่าววงการอุตสาหกรรม เผย BKD ผนึกพันธมิตรรุก “โครงการบริหารจัดการน้ำในจังหวัดภูเก็ต” ซึ่งโครงการนี้ได้ใบอนุญาตจากการประปาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเจรจากับ BOI แล้ว โดยเบื้องต้นได้ 2 ตำบล ซึ่งเฟสแรกมีขนาดกำลังผลิต 25,000 คิวฟุตต่อวัน เริ่มขายน้ำเดือน เม.ย. 61นี้ คาดกำไรปีละ 105 ล้านต่อปี ซึ่งทั้งโครงการมีกำลังผลิต 100,000 คิวฟุตต่อวัน เชื่อดันกำไรเพิ่มแรงในอนาคต
