ความผันผวนของตลาดหุ้นจีนในปีนี้ เรียกว่าต้อนรับตรุษจีนกันเลยทีเดียว โดยตลาดหุ้นจีน H Share (หุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง) ปรับฐานลงมากว่า 13% นับจากระดับสูงสุดในปีนี้ อย่างไรก็ดี ช่วงที่ผ่านมาก็ฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว ส่งผลให้ตั้งแต่ต้นปีปรับตัวบวกอยู่ถึง 7% (ที่มา: Bloomberg 15 ก.พ. 61)
ถามว่าเป็นการปรับฐานที่น่าเข้าลงทุนหรือไม่ หากพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ยังไม่เปลี่ยนแปลง จีนเองถือว่ามีแนวโน้มการเติบโตที่ดี รวมถึงผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนและราคาหุ้นที่ไม่แพง ถือเป็นโอกาสการลงทุนของนักลงทุนระยะยาวที่จะเข้าสะสมเพิ่มเติม
ทั้งนี้สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่เคยมีหุ้นจีนในพอร์ต ถ้าเริ่มต้นลงทุนในกองทุนหุ้นจีนก่อน ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ก่อนที่จะไปศึกษารายละเอียดของกองทุน มาทำความรู้จักกับศัพท์ควรรู้ที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยหนุนความน่าสนใจของหุ้นจีนกันก่อน
One Belt, One Road หรือ OBOR คำนี้น่าจะเป็นที่คุ้นหูกันอยู่แล้วสำหรับ ‘โครงการเส้นทางสายไหม’ ที่ประธานาธิบดีสี เจิ้นผิง ได้ประกาศเปิดตัวไปเมื่อปี 2556 ซึ่งนับเป็นโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่มีมูลค่ามหาศาลกว่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจะสามารถเชื่อมโยงเส้นทางการค้าทั้งทางบกและทะเล ระหว่างจีนกับโลกภายนอกกว่า 60 ประเทศไม่ว่าจะเป็น ยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกาและเอเชีย ซึ่งมีประชากรรวมกว่า 3.2 พันล้านคน (หรือประมาณ 45% ของประชากรทั้งโลก)
และคาดการณ์กันว่าโครงการนี้จะส่งผลกระทบต่อ 1 ใน 4 ของการค้าโลกเลยทีเดียว นับเป็นหนึ่งในกุญแจหลักที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนให้เติบได้ตามเป้า สร้างตลาดใหม่ๆ ให้แก่ผู้ผลิต อีกทั้งเป็นที่ระบายกำลังการผลิตหลังจีนประสบปัญหากำลังการผลิตล้นมายาวนาน
Rebalancing อีกคำที่มักจะได้ยินเวลาพูดถึงแนวทางการดำเนินนโยบายของประธานาธิบดี สี เจิ้นผิง โดยจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจของจีนฉบับที่ 13 ทางการจีนได้ตั้งเป้าการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ 6.5% แน่นอนว่าเป็นตัวเลขที่ดูสูงเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก และถือว่าสูงมากสำหรับประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก
แต่นั่นคงไม่ใช่ประเด็นสำคัญเท่ากับการที่ รัฐบาลจีนมุ่งปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ โดยเน้นส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ แทนการลงทุนและภาคการผลิตเพื่อการส่งออกแบบเดิม ซึ่งจาก ภาพที่ 1 จะเห็นว่าเป็นไปตามแผนที่ทางการตั้งใจให้เศรษฐกิจเติบโตจากการบริโภคภายในประเทศ
***บทความจัดทำ ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 โดย ฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด
ที่มา : บลจ.กสิกรไทย
เรียบเรียง : พรเพ็ญ เวชกามา
