มิติหุ้น – บลจ.ยูโอบี ประเมินเศรษฐกิจโลกขยายตัว ช่วยผลักดันตลาดหุ้นเติบโตตาม มองแนวโน้มการลงทุนในหุ้นทั่วโลกยังต้องเผชิญความผันผวน แต่ยังให้ผลตอบแทนที่ดี แนะเพิ่มน้ำหนักการลงทุน พร้อมนำเสนอ 5 กองทุนเด่นให้เป็นทางเลือก
นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด (บลจ.ยูโอบี) เปิดเผยว่า ในปี 2561 นี้ บลจ.ยูโอบี ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลก โดยคาดการณ์การเติบโตจะปรับตัวขึ้นที่ 3.9% ในปี 2561 และ 2562 (ข้อมูลจาก IMF ณ มกราคม 2561) นำโดยเศรษฐกิจสหรัฐ ที่ยังคงเติบโตต่อเนื่องและคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.7 ในปี 2561 ขณะที่เศรษฐกิจยุโรปและญี่ปุ่นเริ่มส่งสัญญานการฟื้นตัวที่ดี และน่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 2.2 และ 1.2 ตามลำดับ ส่วนเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเกิดใหม่นั้น คาดว่าจะเติบโตได้ 4.9% ในปี 2561 และ 5.0% ในปี 2562
มองปีนี้ตลาดหุ้นยังผันผวน
ด้านแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2561 ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องได้ในระดับร้อยละ 3.9-4.2 (ประมาณการของธปท.และสศค.) โดยได้รับอานิสงส์ทั้งจากปัจจัยภายนอกและภายในประเทศ ในส่วนของการส่งออกและท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่จะโตต่อเนื่องตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ โครงการลงทุนภาครัฐที่ประมูลแล้วเสร็จจะทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบมากขึ้น
ทั้งนี้ในการลงทุนในตลาดหุ้น ช่วงต้นปี 2561 SET Index ทำจุดสูงสุดใหม่ตั้งแต่เริ่มเปิดตลาดหุ้นของไทย ก่อนปรับตัวลงในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ตามการปรับฐานของตลาดต่างประเทศ ด้วยราคาตลาดหุ้นทั่วโลกที่ค่อนข้างสูงในเกือบทุกตลาด ทำให้ความผันผวนของตลาดหุ้นในปี 2561 จะสูงกว่าปีก่อน โดยเฉพาะในภาวะที่ผลตอบแทนพันธบัตรมีโอกาสปรับขึ้นในปีนี้ จากระดับที่ต่ำกว่าปกติในช่วงปีก่อนหน้า
อย่างไรก็ดี ด้วยภาพเศรษฐกิจที่ยังเติบโตดีต่อเนื่อง การปรับลงของตลาดหุ้นในช่วงระหว่างปีอาจไม่ลึกมากและฟื้นตัวได้เป็นระยะ และหากผลตอบแทนพันธบัตรไม่ปรับตัวขึ้นแรงเกินไป ดัชนี SET Index มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ อย่างไรก็ตามหากการปรับขึ้นของดอกเบี้ยพันธบัตรมากกว่าที่ตลาดคาด หรือค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งตัวมากกว่าคาด อาจทำให้การปรับลงของตลาดหุ้นรุนแรงกว่าที่ประเมิน
แนะเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้น
ด้านนางสาวรัชดา ตั้งหะรัฐ ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บลจ.ยูโอบี กล่าวเพิ่มเติมว่า จากภาพรวมการลงทุนดังกล่าว ทำให้ภาวะการลงทุนมีโอกาสที่จะเกิดความผันผวนได้มาก ทำให้การแสวงหาโอกาสการลงทุนจะต้องใช้ความเชี่ยวชาญที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ด้วยความร่วมมือกับเครือข่ายภูมิภาคและพันธมิตรระดับสากล คัดสรรการลงทุน นอกจากนี้ยังมีมุมมองที่ดีการลงทุนในหุ้นที่ได้รับการสนับสนุนการจากเศรษฐกิจที่เติบโต ดังนั้นจึงแนะนำนักลงทุนปรับพอร์ตการลงทุนโดยการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะตลาดในปัจจุบัน
ทั้งนี้เพื่อให้ครอบคลุมโอกาสการลงทุนที่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ จึงได้คัดสรร 5 กองทุนเพื่อนำเสนอเป็นทางเลือกลงทุน ประกอบด้วย 1.กองทุนเปิด ยูไนเต็ด อินคัม โฟกัส ฟันด์ (UIF) ระดับความเสี่ยงกองทุน 5 ที่เน้นลงทุนในหลายสินทรัพย์ พร้อมกับใช้กลยุทธ์ “all- weather strategy” 2.กองทุนเปิด ยูไนเต็ด อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต อินคัม ฟันด์ (UEMIF) ระดับความเสี่ยงกองทุน 5 โอกาสเติบโตไปกับการลงทุนหลากหลายสินทรัพย์ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่
3)กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล ไดนามิค บอนด์ ฟันด์ (UDB) ระดับความเสี่ยงกองทุน 6 กองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูงหรือซับซ้อน ซึ่งลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลก 4) กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท เจแปน สมอล แอนด์ มิด แคป ฟันด์ (UOBSJSM) ระดับความเสี่ยงกองทุน 6 เน้นลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นที่มีขนาดกลางและเล็กที่ได้รับปัจจัยสนับสนุนการเติบโตจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่น และ 5) กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ไทย สมอล์ แอนด์ มิด แคป อิควิตี้ ฟันด์ (UTSME) ระดับความเสี่ยงกองทุน 6 โดย 5 กองทุนดังกล่าว บลจ.ยูโอบีเชื่อว่าสามารถตอบโจทย์การลงทุนที่สอดคล้องกับภาวะตลาดปัจจุบันได้ เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่เหมาะสมและสม่ำเสมอในระยะกลางถึงยาว
ที่มา : บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย)
เรียบเรียง : พรเพ็ญ เวชกามา
