มิติหุ้น – SGP มั่นใจยอดขายปีนี้โต 10% ตามปริมาณการขายพุ่ง-เจาะตลาดจีนเพิ่ม พร้อมเชื่อผลงาน Q1/61 สดใส หลังฐานลูกค้าขยายวงกว้าง แถมเตรียมงบลงทุน 200 ล้านเหรียญ ลุยธุรกิจ LNG ในจีน คาดชัดเจนภายในปีนี้
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP โดย นายศุภชัย วีรบวรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า บริษัทคาดยอดขายปีนี้จะเติบโตได้ 6.5 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 10%จากปีก่อนที่มีรายได้เกือบ 6หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณการขาย LPG ที่เพิ่มขึ้น จากปีก่อนที่มีปริมาณการขายอยู่ที่ 3.2ล้านตัน ตามการเจาะตลาดจีนมากยิ่งขึ้น ขระที่ภายในประเทศไทยความต้องการใช้ยังสูงขึ้นเป็นอย่างมาก ส่วนที่เหลือจะมาจากการขายในประเทศต่าง ๆอีกกว่า11ประเทศ
ทั้งนี้สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 1/2561 บริษัทคาดว่าจะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามศักยภาพการผลิต และฐานลูกค้าที่สูงขึ้น
พร้อมกันนี้ทางบริษัทยังเตรียมงบลงทุนราว 200ล้าน้หรียญสหรัฐ สำหรับขยายธุรกิจLNG ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างมองหาโอกาสในการเข้าลงทุน ภายหลังจากที่ประเทศจีนได้มีนโนบายลดปัญหามลพิษ จึงทำให้โรงไฟฟ้าประเภทถ่านหินได้ถูกยกเลิกการดำเนินการได้ค่อนข้างมาก จึงทำให้ LNG มีโอกาสที่จะเติบโตได้อย่างมากในอนาคต ทั้งนี้การลงทุนดังกล่าวนั้น ได้แก่ การเข้าซื้อท่าเรือในประเทศจีน เพื่อต่อยอดธุรกิจLNG ขณะเดียวกันยังมีแผนที่เข้าซื้อที่ดิน ใกล้เคียงกับบริเวณพื้นที่เดิม ในซั่วเถา เพื่อหวังนำมาตั้งโรงงานผลิต LNG โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับเจ้าของที่ดินอยู่ ซึ่งคาดว่าจะได้ความชัดเจนภายในปีนี้
นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมเงินไว้อีก 2000 ล้านบาท เพื่้อนำมา ขยายธุรกิจไปยังตลาดที่มีศักยภาพเติบโตมาก รวมถึงการสร้างคลัง LPG ใหม่ ซึ่งเตรียมที่จะเปิดคลัง LPG ในภาคตะวันตกของมาเลเซีย ในช่วงปลายปีนี้ จากปัจจุบันที่มีคลัง LPG อยู่แล้ว 2 แห่งทางมาเลเซียตะวันออก มีขนาดบรรุจ 1.2 แสนตัน ซึ่งการขยายคลังไปทางฝั่งตะวันตกจะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันผลักดันให้มียอดขายเพิ่มขึ้น และมีต้นทุนถูกลง นอกจากนี้ยังเตรียมที่จะเปิดคลัง LPG ในเมียนมาในช่วงปลายปีนี้ด้วยเช่นกัน
ด้านแหล่งเงินทุนนั้นบริษัทมั่นใจว่ามีเพียงพอ ด้วยหนี้สินต่อทุน (D/E) ในระดับ 0.9 เท่า จึงทำให้มีศักยภาพในการกู้ได้อีกมากซึ่งธนาคารพาณิชย์พร้อมที่จะให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี ขณะที่เงินสดในมือยังมีอยู่จำนวนมาก
สำหรับธุรกิจไฟฟ้าปัจจุบันมีการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่ว โดยถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 36.1% กำลังการผลิตรวม 230 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ยังได้เจรจาเพื่อดำเนินธุรกิจร่วมกันกับพันธมิตรในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานดีเซล ในเมียนมา เพื่อจำหน่ายไฟฟ้าตรงให้กับสหกรณ์หมู่บ้าน โดยคาดว่าจะเริ่ม COD ในเฟสแรก 10 เมกะวัตต์ ช่วงไตรมาส2/2561
www.mitihoon.com