โบรกมองต่างมุม‘ERW’ ตัวแปรมาร์จิ้นกระทบราคา

127

มิติหุ้น – ERW รับอานิสงส์ท่องเที่ยวขาขึ้น บล.เคจีไอ มองบวก ชี้การเปิดโรงแรมราคาประหยัดเป็นจจัยหนุน บวกกับโรงแรม Hop-Inn ช่วยปลุกมาร์จิ้นวิ่งฉิว ได้จังหวะอัพราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 9.70 บาท ฝากบล.หยวนต้า มองต่าง ประเมินมาร์จิ้นหดตัว แนะ “ขาย” ราคาพื้นฐาน 7.10 บาท

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป ว่า การที่ ERW เพิ่มจำนวนโรงแรมใหม่ในกลุ่มที่มี margin สูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ ERW ได้อานิสงส์เต็มๆ จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น โดยในปีที่แล้วบริษัทเปิดโรงแรม Hop-Inn เพิ่มขึ้น 11 แห่ง และในปีนี้ตั้งเป้าจะเปิดเพิ่มอีก 9 โรงแรม

คาดมาร์จิ้นดีต่อเนื่อง
โดยการเปิดโรงแรมเพิ่มในกลุ่มราคาประหยัดเป็นกลุ่มที่เหมาะสมที่สุด สำหรับทิศทางนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการห้องพักราคาถูก และยังเปิดโอกาสให้ ERW สามารถจับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย ซึ่งจะช่วยสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วย โดยโรงแรมในฟิลิปปินส์มีผลการดำเนินงานดี และมี upside ในระยะยาว

ทั้งนี้ ERW ได้ไปเปิดโรงแรม “Hop-Inn” ในฟิลิปปินส์เมื่อสองปีก่อน โดยเปิดแห่งแรกในปี 2559 และแห่งที่สองในปี2560 มีจำนวนห้องพักรวม 312ห้อง และมี occupancy rate รวมประมาณ 73% ในขณะที่ Revpar โตในระดับเลขสองหลัก และถึงจุดคุ้มทุนในระดับ EBIT ได้ภายในปีแรกที่เปิดดำเนินการ และเพื่อรักษาโมเมนตั้มการเติบโต ERW จึงมีแผนจะเปิดโรงแรม Hop-Inn เพิ่มอีกสามแห่งในปีนี้ และโรงแรมระดับกลางอีก 2 แห่งในปี 2563

อัพราคาพื้นฐานขึ้น9.70บ.
ในส่วนของ Margin ดีขึ้น โดย EBITDA margin ของ ERW ขยับเพิ่มขึ้นประมาณ 2% ในปี 2560 และคาดว่าจะดีขึ้นต่อเนื่องจากการที่มีสัดส่วนรายได้จากโรงแรมที่มี margin สูงอย่าง Hop-Inn เพิ่มขึ้น ซึ่งตามปกติแล้วโรงแรมกลุ่มนี้จะมี EBITDA margin ประมาณ 45-50% (รายได้ของ Hop-Inn คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 5% ของรายได้รวม และ EBITDA คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 6.5% ของ EBITDA รวม) และเนื่องจากโรงแรมที่เปิดใหม่ทุกแห่งในปี 2560 เป็นโรงแรม Hop-Inn ทั้งหมด

ดังนั้น occupancy และอัตราค่าห้องพักที่เพิ่มขึ้นในปีที่สองที่เปิดดำนินการจะช่วยให้ margin ของ ERW ขยับสูงขึ้นในปี 2561 โดยฝ่ายวิเคราะห์ใช้สมมติฐาน EBITDA margin จะเพิ่มขึ้น 30bps ในปี 2561 และทรงตัวในปี 2562 ดังนั้น ฝ่ายวิเคราะห์จึงได้ปรับประมาณการกำไรปี 2561/62 ขึ้นอีกปีละ 5% และปรับราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 9.70 บาท (เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 8.50 บาท)

หยวนต้ามองต่างแนะ“ขาย”

ด้าน บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนะนำ “ขาย” ERW จาก 3 สาเหตุหลัก คือ 1. แม้ปีนี้ ERW ตั้งเป้าเปิดโรงแรมเพิ่มอีก 9 แห่ง ซึ่งทำให้จำนวนห้องพักรวมเพิ่มขึ้น 16% จากช่วงเดียวกันปีก่อนเป็น 8.5 พันห้อง แต่เป็นสิ่งที่ฝ่ายวิเคระห์และตลาดรวมไว้ในประมาณการอยู่แล้ว

และ 2.แนวโน้ม EBITDA Margin คาดหดตัว 70bps จากปีก่อนหน้า จากค่าใช้จ่ายปรับปรุงโรงแรม JW Marriott, ค่าใช้จ่ายทางการตลาดและการรับนรู้ผลขาดทุนจากการเปิดโรงแรมใหม่ (Midscale & Economy) ในช่วงต้น และ 3. ฐานกำไรของ ERW ที่ใหญ่ขชึ้น ทำให้กำไรปกติกลับสู่การเติบโตปกติที่ 11% จากปีก่อนเป็น 587 ล้านบาท เทียบกับปี 2560 ที่ 53% อีกทั้งราคา ณ ปัจจุบันซื้อขายขายที่ EV/EBITDA ในปี 2561 ที่ 14.6x ใกล้เคียงระดับ +1Sd ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี สะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อแผนธุรกิจไปมากแล้ว จึงคงคำแนะนำ “ขาย” ที่มูลค่าเหมาะสม ณ สิ้นปี 2561 ที่ 7.10 บาท

เรียบเรียง : พรเพ็ญ เวชกามา