ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บจม.บ้านปู หรือ BANPU โดยนางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวถึงกรณีศาลฎีกามีคำพิพากษาสรุปคดีโครงการโรงไฟฟ้าหงสาว่า ศาลพิจารณาว่า บ้านปูมีความสุจริตในการเข้าทำสัญญาพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าหงสาทำเพื่อประโยชน์ของโครงการ แต่ต้องจ่ายค่าใช้ข้อมูลในการพัฒนาโครงการไฟฟ้าหงสาที่ได้ดำเนินร่วมกันกับกลุ่มงานทวีเป็นจำนวนเงิน 1,500 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% เป็นระยะเวลา 10 ปีนับตั้งแต่วันที่ 3 เดือนกรกฎาคม 2550 จำนวน 1,200 ล้านบาท รวมทั้งสิน 2,700 ล้านบาท ให้แก่กลุ่มงานทวี
โดย BANPU พร้อมจ่ายเงินทันทีภายหลังจากศาลพิจารณาสรุปคดี ซึ่งการชดใช้เงินจำนวนดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทและการลงทุนในต่างประเทศ เนื่องจาก ณ สิ้นปี 2560 นั้นบริษัทมีกระแสเงินสดอยู่ราว 32,000 ล้านบาทถือว่ายังแข็งแกร่ง ขณะเดียวกัน บริษัทได้ดำเนินการลงทุนอย่างสุจริตและหลักบรรษัทภิบาลและจริยธรรมมาตลอด พร้อมกันนี้ยังคงเดินสายโรดโชว์ต่างประเทศต่อเนื่องเช่นเดิม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน
“บริษัทฯ น้อมรับและพร้อมปฏิบัติตามคำตัดสินของศาลทุกประการ และขอเน้นย้ำว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจโดยสุจริตทั้งก่อนและหลังการเข้าทำสัญญาร่วมพัฒนาโครงการ โดยบริษัทฯ ไม่ได้กระทำผิดสัญญาต่อโจทก์ บริษัทฯ ขอให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นว่าคำตัดสินไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ และบ้านปู เพาเวอร์ฯ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจด้วยความเป็นมืออาชีพตามแผนกลยุทธ์ Greener & Smarter ที่มุ่งสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้เสียในทุกภาคส่วน และที่สำคัญคือ บริษัทฯ จะยังคงยึดมั่นในการปฏิบัติตามหลักบรรษัทภิบาลและจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจตลอดไป” นางสมฤดี กล่าว
www.mitihoon.com
