อันดับที่ 1 L&E ตุน Backlog กว่า 1,200 ลบ. ดันรายได้ปี 61 โต 20%
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E ผู้นำในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายโคมไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่างรายใหญ่ของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน โดยนายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร เปิดเผยถึง แผนงานในปี 2561 มีแนวโน้มเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา จากการขยายตัวของเศรษฐกิจ งานก่อสร้าง และอุตสากรรมต่างๆ เริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น จึงเชื่อว่าจะมีงานโครงการออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) ที่รอรับรู้เป็นรายได้อยู่กว่า 1,200 ล้านบาท และจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ทั้งหมด และเป็นงานโครงการมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท สำหรับแผนรุกตลาดต่างประเทศมีทิศทางที่ดี
อันดับที่ 2 FTE ลั่นรายได้ปีนี้โตไม่เกิน 20% พร้อมรักษาอัตรากำไรสุทธิที่ 12-13%
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง หรือ FTE ผู้นำธุรกิจนำเข้าและจำหน่าย บริการออกแบบ รับเหมาติดตั้ง ซ่อมแซม ตรวจสอบอุปกรณ์-ระบบดับเพลิงครบวงจร โดยนายทักษิณ ตันติไพจิตร กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทเข้ารับงานงานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงมูลค่ารวมกว่า 70 ล้านบาท โดยรับงานจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) 1 โครงการ มูลค่า 13 ล้านบาท งานรับเหมาจากโครงการขนาดใหญ่ (EPC) 3 โครงการมูลค่ารวม 30 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังรับงานติดตั้งระบบดับเพลิงในโรงงานนิคมอุตสาหกรรมอีกกว่า 10 แห่ง มูลค่ารวม 20-30 ล้านบาท ขณะที่สาขาจังหวัดระยองพร้อมเปิดปลายเดือนมี.ค.นี้
อันดับที่ 3 GFPT ตลาดตปท.พยุงพอร์ต ลุ้นราคาไก่ฟื้นตัวช่วยหนุน
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานของ บมจ.จีเอฟพีที หรือ GFPT โดยระบุในบทวิเคราะห์ว่า ฝ่ายวิเคราะห์ คาดยอดขายในปีนี้ของ GFPT จะโตแค่ 6% ในขณะที่ GFPT คาดว่าบริษัทจะโตแค่ 5% นำโดยธุรกิจไก่แปรรูปโดยเฉพาะในส่วนที่ส่งออกไปยังตลาดยุโรปและญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะเป็นธุรกิจหลักที่ทำรายได้ให้บริษัทคิดเป็นสัดส่วน 48% ของรายได้รวม ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่ากำไรในปี 2561 จะลดลง15% และราคาหุ้นที่ถูกลงจะช่วยจำกัด downside โดยราคาหุ้น GFPT ร่วงลงมาแรงถึง 40% ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2560 (จาก 22.10 บาท เหลือ 12.50 บาท) ซึ่งถือว่าราคาได้ปรับตัวลงมาต่ำมากแล้ว โดยราคาปิดล่าสุดคิดเป็น P/BV แค่1.3X (เท่ากับค่าเฉลี่ยสามปีย้อนหลัง -1.0 S.D.) จึงยังคงแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมายที่ 13.80
อันดับที่ 4 DDD ส่งออกจีนไปได้สวย กูรูเชียร์ “ซื้อ” จังหวะย่อตัว
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ บมจ. ดู เดย์ ดรีม หรือ DDD ว่า หลังจากนักลงทุนค่อนข้างผิดหวังกับการส่งออกไปจีนที่ชะลอลงในไตรมาส 4/60 ซึ่งเป็นช่วงเตรียมเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้เป็นไปตามข้อกำหนดของ China Food and Drug Administration (CFDA) หรือ อย.ในจีน นอกจากนี้ DDD ได้จัดตั้งบริษัทย่อยที่สิงคโปร์ซึ่งอยู่ภายใต้ IHQ (ตามมาตรการของรัฐบาลเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ) การผลิตสูงขึ้น หลังจากการย้ายโรงงานเมื่อต้นปี 2560 สัดส่วนค่าใช้จ่ายคาดว่ายังควบคุมได้ในระดับ 38% ของยอดขาย ในมุมมองของฝ่ายวิเคราะห์ เชื่อว่าการส่งออกไปจีน คาดจะเพิ่มขึ้นโดดเด่นในปีนี้้จากการได้ CFDA ช่วยเพิ่มโอกาสการขายในจีนทั้งในออนไลน์และออฟไลน์ ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงเป็นโอกาสในการ “ซื้อ” โดยประเมินราคาเป้าหมาย(DCF)
อันดับที่ 5 BGRIM-GULF กอดคอร่วงแรง 10% โบรกฯ แนะหาจังหวะเข้าซื้อ
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ หรือ BGRIM ในรอบ 4 วัน ปรับตัวลดลง 16.92% โดยวันนี้ (9 มี.ค.) ราคาต่ำสุด 24.30 บาท ล่าสุด (12.10น.) ราคาอยู่ที่ 24.70 บาท ลดลง 0.80 บาท หรือ -3.14% ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 894 ล้านบาท ส่วนราคาหุ้น บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF ปรับตัวลงต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 63.25 บาท ล่าสุดอยู่ที่ 64.75 บาท หรือลดลง 7.25 บาท ร่วง 10.07% ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 1,571 ล้านบาท นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) ประเมิน BGRIM ตามสัญญาณทางเทคนิค มีแนวโน้มปรับตัวลงต่อ แนะรอซื้อที่แนวรับ โดยประเมินแนวรับที่ 23 บาท และแนวต้านที่ 27 บาท
