อันดับที่ 1 PTT ชะลอลงทุนอินโดฯ รอความชัดเจนเรื่องคดี เล็งสยายปีกเมียนมา ต่อยอดโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ปตท. หรือ PTT โดยนายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า กลุ่มปตท.ต้องชะลอการลงทุนใหม่ในประเทศอินโดนีเซียไปก่อน เพื่อรอความชัดเจนกรณีกระทรวงสิ่งแวดล้อมและป่าไม้ของประเทศอินโดนีเซียถอนฟ้องเรียกค่าเสียหายจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลในแหล่งมอนทารา ประเทศออสเตรเลีย จากบริษัท ปตท. และบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ PTTEP ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้ที่รัฐบาลอินโดนีเซียจะกลับมายื่นฟ้องอีกรอบหลังจากแก้ไขเอกสารใหม่ ส่วนที่ลงทุนไปก่อนหน้า ยังคงดำเนินการตามปกติ นอกจากนี้ กลุ่มปตท.ยังมองหาโอกาสลงทุนธุรกิจที่เป็นห่วงโซ่ธุรกิจด้านพลังงานทดแทน ทั้งแบตเตอรี่ และโซล่าร์
อันดับที่ 2 TPBI ล้มดีลเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นเป็น 25% ใน `Minima` ประเทศ ไต้หวัน หลังยังมีความกังวลเกี่ยวกับตลาดพลาสติกชีวภาพ
มิติหุ้น-บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ TPBI แจ้งว่าบริษัทได้ตัดสินใจยกเลิกการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน บริษัท มินิมา เทคโนโลยี จำกัด ประเทศไต้หวัน (“Minima”) ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิต จัดจาหน่าย วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพย่อยสลายได้ 100% จากที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น ไม่เกินร้อยละ 25 หลังจากการที่บริษัทได้เข้าทำ Due Diligence อย่างละเอียดพร้อมกับที่ปรึกษาทางการเงินและที่ปรึกษาทางกฏหมาย เนื่องจากบริษัทยังมีความกังวลในการเติบโตของตลาด ความต้องการพลาสติกชีวภาพย่อยสลายได้ 100% ในอนาคต ดังนั้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจทำให้บริษัทไม่สามารถได้รับผลตอบแทนการลงทุนตรงตามที่บริษัทได้ประมาณการณ์ไว้ แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มบริษัทจะยังคงสัดส่วนการถือหุ้นใน Minima ไว้เท่าเดิม
อันดับที่ 3 PTTEP รับอานิสงส์ราคาน้ำมันขยับ กูรูปรับเป้าหมาย125บ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ PTTEP ว่า ฝ่ายวิเคราะห์ได้ปรับประมาณการณ์สมมติฐานราคาน้ำมันดูไบปี 2561 และระยะยาวขึ้น 9% เป็น 60 เหรียญต่อบาร์เรล สะท้อนราคาปัจจัยพื้นฐานของตลาดน้ำมันที่ตึงตัวมากขึ้น เห็นได้จากการลดลงของปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี หลังกลุ่มโอเปกและพันธมิตรคงการปรับลดการผลิตน้ำมันที่ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้ราคา YTD เฉลี่ย 64.2 เหรียญต่อบาร์เรล (+20% จากช่วงเดียวกันปีก่อน) อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิเคราะห์ปรับสมมติฐานต้นทุนต่อหน่วยขึ้น 1% ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 125 บาท คงคำแนะนำ Trading Buy เพราะแม้ฝ่ายวิเคราะห์จะประเมินว่าราคาน้ำมันจะมี Upside จำกัด แต่เชื่อว่าพัฒนาการการประมูลสัมปทานต่ออายุในระบบ PSC จะเป็นปัจจัยบวกต่อ PTTEP ล่าสุด TOR คาดประกาศในช่วงปลายเดือน เม.ย. ประกาศผลการประมูลช่วงปลายปี 2561
อันดับที่ 4 DCC กระซิบผลงาน Q1/61 โต10% มั่นใจทั้งปีรายได้พุ่งกว่า 15% ตามออเดอร์ทะยาน
มิติหุ้น- นายรุ่งโรจน์ แสงศาสตรา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จำกัด (มหาชน) หรือ DCC เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลประกอบการช่วงไตรมาส 1/2560 จะเติบโตได้ 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ทั้งปี บริษัทมั่นใจว่าจะเติบโตได้ราว 15% จากปีก่อนที่มีรายได้รวมทั้งสิ้น 7,392.66 ล้านบาท จากปริมาณความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทางบริษัทยังเร่งขยายสาขาเพิ่มอีก 6 แห่ง โดยใช้งบลงทุนเบิ้งต้นประมาณ 50 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทยังได้มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าเพิ่มเติม โดยจะใช้งบลงทุนราว 400-500 ล้านบาท เพื่อหวังขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศมาเลย์เซีย ฟิลิปินส์ พร้อมกันนี้ทางบริษัทยังอยู่ระหว่างพิจรณาร่วมทุนระหว่างพันธมิตร ประเภทจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง
อันดับที่ 5 SPA ติดเรดาร์กูรูปี 61 กำไรโตแกร่ง 56% เป้าราคา 25 บาท
มิติหุ้น-บทวิเคราะห์ บล.ธนชาตได้มีหุ้น Fundamental Alert คือ บมจ. สยามเวลเนสกรุ๊ป หรือ SPA พร้อมแนะ “ซื้อ” ให้เป้าหมายพื้นฐาน 25 บาท/หุ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือ 1.การขยายสาขาเป็นไปตามแผน 10 แห่งปีนี้ โดยได้ทำเลเป้าหมายไว้หมดแล้ว ขณะที่อัตรากำไรที่ลดลงในปลายปี 2560 เป็นผลจากการ renovate สาขาบางส่วน 2.แผนขยายธุรกิจในต่างประเทศ aggressive มากขึ้น โดยจะเปิดสาขา Let’s Relax ของตัวเองในเซี่ยงไฮ้ ในช่วง ครึ่งหลังของปีนี้ เพื่อสร้างมาตรฐานของ Let’s Relax ในต่างประเทศ 3. ผลการดำเนินงานช่วงครึ่งแรกของปี 2561 จะเติบโตแข็งแกร่งจากการรับรู้รายได้จากการขาย Franchise ทั้งในจีน และกัมพูชา ขณะที่ธุรกิจในประเทศยังเติบโตดี และ 4. จึงแนะนำ บ“ซื้อ” SPA เป้าหมายพื้นฐาน 25 บาท โดยมองธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศเติบโตดี และมี upside จากการขยายธุรกิจในต่างประเทศเพิ่มขึ้น แม้ปี 61ประเมิน PE ที่ 42 เท่า ดูสูง แต่กำไรโตแรง 56-44% ปี61-62มี PEG ต่ำกว่า 1 เท่า