ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ยูไนเต็ด เปเปอร์ หรือ UTP ผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายกระดาษและวัสดุการพิมพ์ โดยนายมงคล มังกรกนก กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า ภาพรวมผลประกอบการในปี 2561 คาดว่ายอดขายจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% โดยบริษัทตั้งเป้าผลิตเต็มกำลังการผลิตที่ 2 หมื่นตันต่อเดือน จากเดือนมกราคม 2561 ที่ใช้กำลังผลิตอยู่ที่ราว 1.6-1.7 หมื่นตันต่อเดือน เพื่อรองรับคำสั่งซื้อที่มีเข้ามามากขึ้น โดยขณะนี้มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามาราว 3-4 พันตันต่อเดือน จากประเทศเวียดนาม จีน และกัมพูชา
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนขยายโกดังเพิ่มอีก 6 พันตารางเมตร รองรับกำลังการผลิตสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมีพื้นที่โกดังอยู่ 12,000 ตารางเมตร พร้อมปรับปรุงเครื่องจักรใหม่คาดว่าใช้เงินลงทุนราว 100 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังมีแผนที่จะแตกไลน์ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมกระดาษ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตร
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในมุมมองของฝ่าบวิเคราะห์ มองว่า UTP มีศักยภาพในการทำกำไรที่แข็งแกร่ง โดยมีปัจจัยบวกจากราคาขายเฉลี่ยกระดาษที่ปรับตัวดีขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบต่ำ ผนวกกับการได้ประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาด (economies of scale) ขณะสถานการณ์อุปทานที่ขาดแคลนที่ประเทศจีนยังคงเกิดขึ้น หลังรัฐบาลจีนได้เพิ่มมาตรการความไม่บริสุทธิ์ (impurity allowance) ของวัตถุดิบกระดาษนำเข้าเป็น 3.0% จากเดิม 1.5% ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดการแคลนขึ้นแลบ้ว ยังเป็นการสกัดอุปทานใหม่ๆ ที่จะเข้ามาในตลาดด้วย
นอกจากนี้ คาดว่าการใช้กำลังการผลิตของ UTP นับตั้งแต่ มีนาคม 2561 จะปรับตัวดีขึ้น และสมมุติฐานปริมาณขายปีนี้เป็น 264,000 ตัน ดังนั้นจึงปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” ด้วยราคาพื้นฐานใหม่ที่ปรับขึ้นเป็น 13.50 บาท หลังปรับประมาณการขายดีขึ้นในปีนี้และปีหน้ าในอัตรา 20% และ 24% ตามลำดับ
www.mitihoon.com
