CHO ผลงานปี 61 หรู โชว์แบ็กล็อกหนากว่า 6.5 พันลบ.พร้อมส่งมอบรถเมล์ NGV ล็อตแรก 100 คัน มี.ค.นี้

152

มิติหุ้น-CHO ส่งสัญญาณแนวโน้มผลงานปี 61 โตสุดตระการตา หลังตุน Backlog หนากว่า 6,500 ล้านบาท จ่อบุ๊กรายได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/2561 เป็นต้นไป พร้อมส่งมอบรถเมล์ NGV ล็อตแรกจำนวน 100 คัน ภายในเดือนมี.ค.นี้

 

นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ช ทวี  หรือ CHO เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2561 คาดว่าจะเติบเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากปริมาณงานในมือ (Backlog) ที่มีกว่า 6,500 ล้านบาท   ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้แต่ตั้งแต่ไตรมาส 1/2561 เป็นต้นไป

ขณะที่งานโครงการรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) พร้อมซ่อมแซมและบำรุงรถโดยสาร จำนวน 489 คัน  ปัจจุบัน กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ได้นำเข้าตัวรถมาแล้ว และอยู่ระหว่างติดตั้งเครื่องยนต์ เกียร์ คัสซี และอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งนำรถตัวอย่างเข้าทดสอบ ตามเส้นทางของ ขสมก. พร้อมเตรียมทยอยส่งมอบงานล็อตแรกจำนวน 100 คัน ภายในเดือนมีนาคมนี้

ส่วนความคืบหน้างานโครงการเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket) และเครื่องเก็บค่าโดยสาร หรือ “แคชบ็อกซ์” (Cash box) บนรถโดยสารประจำทาง 2,600 คัน ปัจจุบันบริษัทฯ มีแผนดำเนินการติดตั้งเครื่อง E-Ticket ต่อเนื่องให้ครบ 2,600 คันตามกำหนด  และในส่วนเครื่องเก็บค่าโดยสาร หรือ “แคชบ็อกซ์” (Cash box)  ขณะนี้ ขสมก. ได้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อกฎหมาย และพิจารณา เพื่อดำเนินการตัดสินใจ เรื่องกล่องเก็บค่าโดยสาร “แคชบ็อกซ์” (Cash box) หลังจากการตรวจรับ 100 คันแรกภายในเดือนมีนาคม 2561 เนื่องจากเล็งเห็นว่าในอนาคตจะเข้าสู่ยุค Cashless Society หรือสังคมไร้เงินสด

นอกจากนี้ ความคืบหน้าการเข้าร่วมประมูลงานโครงการพัฒนาเมืองขอนแก่นร่วมกับพันธมิตร จำนวน 2 โครงการ  ปัจจุบันสำนักงานนโยบาย และแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้สรุปผลการศึกษาโครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนระบบรางเบา สายเหนือ-ใต้ ต้นแบบในเมืองภูมิภาค จ.ขอนแก่น ระยะทาง 26 กม. เสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างจัดทำรายงานฉบับสมบูรณ์เพื่อส่งให้จังหวัดดำเนินการต่อไป  ซึ่งคาดว่าจะสามารถทราบผลชัดเจนได้ภายในไตรมาส 2 นี้

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นขยายตลาดทั้งในประเทศ อาทิ การขยายฐานลูกค้าด้านการขนส่งตามหัวเมืองใหญ่ๆ  การเข้าประมูลงานทั้งภาครัฐและเอกชน  และต่างประเทศ อาทิ การเจาะตลาดรถลำเลียงอาหาร, รถอื่นๆ ที่ใช้ในสนามบิน, รถใช้ในภาระกิจอื่น ๆ , เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง และผลิตรถตามออเดอร์ เป็นต้น    ไปพร้อมกับการขยายศูนย์บริการซ่อมรถบรรทุก “สิบล้อ 24 ชั่วโมง”  ให้ครบ 8 แห่ง ภายใน 3 ปี (พ.ศ. 2561-2563) รวมทั้งงานบริหารโครงการต่าง ๆ โครงการ Smart Transit  เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของบริษัท  รวมไปถึงการบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

www.mitihoon.com