GULF จ่อลงทุนโซลาร์ฟาร์มเวียดนาม ดันรายได้เฉียด 2 หมื่นล้าน

470

มิติหุ้น-GULF คาดรายได้เฉียด 2 หมื่นล้านบาท ปลายปี 2561 จ่ายไฟเพิ่ม 250 เมกะวัตต์รวมทั้งปี 500 เมกะวัตต์ อัดงบลงทุน 2.5 หมื่นล้านบาทสร้างโรงไฟฟ้า SPP มองหาโอกาสลงทุนใหม่ต่อเนื่องทั้งในไทยและ CLMV จ่อลงทุนโซลาร์ฟาร์มเวียดภายใน1-2เดือนนี้ เร่งเดินหน้าศึกษาโรงไฟฟ้าในสปป.ลาว พร้อมลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติครบวงจร

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.กัลฟ์ เอ็นเอนร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF โดยนายรัฐพล  ชื่นสมจิตต์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานพัฒนาธุรกิจ เปิดเผยว่า ปี 2561 ตั้งเป้ารายได้เติบโตเฉียด 20,000 ล้านบาท จากปี 2560 นั้นมีรายได้รวม 9,523 ล้านบาท

โดยเตรียมจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมแบบ SPP จำนวน 2 โครงการ โครงการละ 125 เมกะวัตต์รวม 250 เมกะวัตต์ในเดือนกันยายน และพฤศจิกายน 2561 หลังจากไตรมาส1/2561 COD แล้ว 2 โครงการขนาดกำลังการผลิตรวม 250 เมกะวัตต์ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราช และเหลืออีก 4 โครงการที่รอ COD ในปี 2562 อย่างไรก็ตามหากนับกำลังการผลิตรวมที่ COD ตามสัดส่วนการถือหุ้นจะส่งผลให้สิ้นปีนี้ GULF มีกำลังการผลิต 2,253 เมกะวัตต์

นอกจากนี้แล้วยังมองหาโอกาสลงทุนโครงการใหม่เพิ่มเติมทั้งโรงไฟฟ้า SPP และ IPP ในนิคมอุตสาหกรรมเพื่อพร้อมสนับสนุนนโยนายของรัฐและเพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของไทย (PDP) อย่างไรก็ตามปัจจุบัน GULF อยู่ระหว่างพิจารณาร่วมลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนและเชื้อเพลิงฟอสซิวในประเทศเวียดนามขนาดกำลังการผลิตรวมราว 2,000-3,000 เมกะวัตต์คาดว่าจะสามารถทยอยลงทุนได้ในระยะ 5-7 ปี ในเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเริ่มลงทุนโซลาร์ฟาร์มในปีนี้ 50 เมกะวัตต์ โดยจะเป็นการร่วมลงทุนกับพันธมิตรท้องถิ่นในสัดส่วนถือหุ้นประมาณรายละ 50%

ขณะที่โครงการในสปป.ลาวอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรสำหรับลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินและโรงไฟฟ้าพลังน้ำราว 1,000 เมกะวัตต์ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปการลงทุนในปีนี้ GULF พร้อมตั้งเป้าที่จะรับรู้รายได้จากธุรกิจผลิตไฟฟ้าต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 30-40% ในช่วง 5-7 ปีนี้ สำหรับงบลงทุนในปีนี้คาดใช้เงินลงทุนราว 25,000 ล้านบาทลงทุนพัฒนาโรงไฟฟ้า SPP ในนิคมอุตสาหกรรม

ส่วนการลงทุนท่อส่งก๊าซธรรมชาติ (NGD) นั้นลงทุนไปแล้ว 2 โครงการในนิคม WHA Eastern Seaboard จะเปิดดำเนินการในปีนี้ 1 โครงการและเปิดดำเนินการเพิ่มอีก 1 โครงการในปี 2562 พร้อมมีแผนขยายการลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติครบวงจร ทั้งการนำเข้าLNG และสร้างคลังเก็บLNG โดยผนึกกำลังกับผู้ร่วมทุนที่แข็งแกร่งจากประเทศญี่ปุ่นทั้ง Mitsui และ Tokyo Gas ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอความชัดเจนจากทางภาครัฐถึงการเปิดเสรีในธุรกิจก๊าซธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อกำหนดเงื่อนไขการเป็นผู้นำเข้าก๊าซธรรมชาติ และอัตราการรับซื้อ

www.mitihoon.com