มิติหุ้น – VNT โบรกฯ คาดกำไรไตรมาส 1/61 จ่อทุบสถิตินิวไฮ หลังราคาพีวีซีมีแนวโน้มฟื้นตัว ขณะที่ผู้บริหารยืนยันปิดปรับปรุงโรงงาน 3 สัปดาห์ ไม่มีผลกระทบ เตรียมใช้งบลงทุน 1 หมื่นล้านบาท อัพกำลังผลิตพีวีซีเพิ่ม 10% แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 40 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.วีนิไทย หรือ VNT โดยนักวิเคราะห์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ประเมินว่า VNT จะรายงานกำไรสุทธิสูงสุดในไตรมาส 1/2561 ที่ 1,020 ล้านบาท เติบโต 33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
เนื่องจากราคา PVC มีแนวโน้มฟื้นตัว ประกอบกับราคาคอสติกโซดา (caustic soda) และราคาสารอีพิคลอโร ไฮดริน (ECH) ที่ยังอยู่ในระดับสูง และผู้บริหารยืนยันว่าไม่มีผลกระทบต่อปริมาณการผลิตจากการปิดปรับปรุงโรงงานผลิตเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ซึ่งคาดปริมาณการผลิตของ VNT จะยังคงอยู่ในระดับสูง โดยมีอัตราส่วนการหมุนเวียนสินค้าคงคลังเฉลี่ย 5 ปีเป็น 14.8 เท่า
ทุ่มงบ1หมื่นลบ.ผลิตพีวีซีเพิ่ม
ทั้งนี้ ประเมินว่า VNT อาจมีส่วนต่างจากการขยายกำลังการผลิตพีวีซีซึ่งจะแล้วเสร็จเร็ว ๆ นี้ โดยทางผู้บริหาร กล่าวว่า กำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้เงินลงทุนราว 10,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอย่างน้อย 10% และปัจจุบัน VNT กำลังถ่ายโอนข้อมูล piperack เป็นกรรมสิทธิ์ของ PTTGC ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายเอทิลีนแต่เพียงผู้เดียวของ VNT
โดยการโอนย้ายช่วยให้ VNT สามารถวางท่อส่งสารเคมีในบริเวณใกล้เคียงโรงงานของ PTTGC ได้ ดังนั้น ประเมินว่า VNT จะดำเนินการเสร็จสิ้นดำเนินการเสร็จสิ้นในช่วงกลางปีนี้
ยอดขายพุ่ง – ดันงบโต
สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปี 2560 บริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้รวม 19,403.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มีรายได้ 15,887.01 ล้านบาท โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากราคาขายเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์สูงขึ้น โดยเฉพาะราคาขายเฉลี่ยของพีวีซี โซดาไฟ และอีพิคลอโรไฮดริน ที่ได้รับผลกระทบจากปริมาณการส่งออกจากจีนลดลง ส่งผลให้ราคาของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวสูงขึ้น และปริมาณการขายสินค้าในทุกผลิตภัณฑ์ยังเพิ่มสูงขึ้นด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการลดการนำเข้าอีดีซีมาใช้ในการผลิต ซึ่งทำให้ผลิตและขายโซดาไฟได้มากขึ้นจากปีก่อน บวกกับปริมาณการขายอีพิคลอโรไฮดรินที่เพิ่มขึ้นไปยังประเทศจีน ไต้หวันและลูกค้าจากประเทศอินเดีย
แนะนำ “ซื้อ – เป้า 40 บาท
อย่างไรก็ตาม คาดว่าอาจมี upside จากราคา ECH ที่สูงกว่าคาด จากการที่ผู้บริหารคาดว่า ECH ราคาอยู่ที่ 1,500-1,800 เหรียญฯ/ตัน เทียบกับสมมติฐานที่ 1,250 เหรียญฯ/ตัน จึงเห็น upside ที่อาจเกิดขึ้น ดังนั้น คงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 40.00 บาท อิงกับผลประกอบการของธุรกิจปิโตรเคมีในภูมิภาคค่าเฉลี่ย PE 12 เท่าในปี 2561
www.mitihoon.com