ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง หรือ GUNKUL ว่า ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินกำไรในปีนี้ของ GUNKUL ไว้ที่ 1,014 ลบ. (+60% จากปีก่อนหน้า) ส่วนปี62 กำไรจะเพิ่มเป็น 1,161 ลบ. เพิ่มขึ้น 14% ส่วนใหญ่มาจากรับรู้กำไรของโรงไฟฟ้าพลังลมแห่งใหม่ ซึ่งมีอัตรากำไรสูง โดยโครงการที่ 2: GNP (60 MW) จะเริ่มผลิต (COD) ตั้งแต่ 23 มี.ค.นี้ และโครงการที่ 3: KWE(50 MW) กำหนดเริ่มผลิตใน มิ.ย.61 รวมทั้งโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ ในญี่ปุ่น 2 โครงการ กำลังผลิตรวม 78 MW คาดจะจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบในไตรมาส 4/61 โดย GUNKUL จะรับรู้การผลิตเต็มปีของโรงไฟฟ้าพลังลมทั้ง 3 โครงการในปี 62 (คาดกำไรราว 1.0-1.2 พันลบ./ปี)
ในส่วนของการร่วมทุนกับบริษัท Kenyir Solar Park Sdn Bhd จัดตั้งบริษัท Kenyir Gunkul Solar Sdn Bhd ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ ที่กัวลาปากา รัฐตรังกานู ในมาเลเซีย ขนาด 29.99 MW กำลังผลิตติดตั้ง 36.56 MW ซึ่ง GUNKUL ถือสัดส่วนลงทุนเพื่อรับปันผล 70% และ Kenyir Solar Park Sdn Bhd ถืออยู่ 30% ทางฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองเป็นบวกต่อโครงการร่วมทุนดังกล่าว และเชื่อว่าโครงการในมาเลเซียจะประสบผลสำเร็จเหมือนกับโครงการในไทย รวมทั้งมีโอกาสได้โครงการลม/แสงอาทิตย์เพิ่มเติม ในเบื้องต้นผู้บริหารคาดไว้เป็นโครงการลม 50 MW ทั้งนี้ บริษัทยังคงตั้งเป้าหมายกำลังผลิตไฟฟ้าที่มีสัญญา PPA ที่ 1 พันเมกะวัตต์ในปี63 จากที่มีโครงการในมือ 497 MW หรือ +503 MW ในช่วงปี 61-63
ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ยังแนะนำ “ซื้อ” สำหรับหรับการลงทุนระยะยาว จากแนวโน้มกำไรในปี 61-62 เติบโตสูง บวกกับโรงไฟฟ้าพลังลม 170 MW ในไทย จะสร้างกำไรให้เติบโตต่อเนื่องและมั่นคงส่วนธุรกิจ EPC จะได้ประโยชน์จากที่บริษัทสนใจและมีโอกาสชนะประมูลประมาณ 10% ของโครงการนำสายไฟฟ้าลงดินของ กฟภ. มูลค่า 1 หมื่นลบ./ปี รวมถึงโครงการวางสายเคเบิ้ลใต้น้ำที่เกาะเต่าและเกาะสมุย มูลค่ารวม 3.2 พันลบ. คาดจะเปิดประมูลภายในไตรมาส 2/61 อีกทั้งราคาหุ้นมี upside gainอยู่ +37% จากราคาเป้าหมายที่ 5.00 บาท