ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.ฟิลิป (ประเทศไทย) ประเมินภาพรวม บมจ. บ้านปู เพาเวอร์ หรือ BPP โดยมองว่าอนาคตสดใส หลังสิ้นสุดคดีความหงสา โดยทางฝ่ายมองกําไรจะดีขึ้นต่อเนื่องหลังปี 61 เป็นต้นไป โดยภายใน 1Q61 จะมีการบันทึกรายการพิเศษค่าเสียหายคดีความหงสา จํานวน 900 ล้านบาท โดยคาดการณ์กำไรปี 61 หลังหักค่าใช้จ่ายพิเศษ 900 ล้านบาทา จะอยู่ที่ 5,009 ล้านบาท เติบโต 20.5% เทียบปีก่อน และเติบโตต่อเนื่องที่ 19.8% ในปี 62
โดยการเติบโตหลักจะมาจากโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน (SLG)เฟส 1 ขนาดกําลังผลิตราว 198 MW ซึ่งคาดจะเริ่มจะเปิดดําเนินการเชิงพาณิชย์ในช่วงปลายปี 62 ดังนั้น BPP จะได้ประโยชน์เต็มปีจากโครงการ SLG ทั้ง 2 เฟส ขนาดกําลงผลิตรวม 396 MW ในปี 63 โดยคิดเป็นการเติบโตของกําไรราว 60% ภายใน 3 ปี
สำหรับความกังวลในระยะสั้น ส่งผลดีต่อ Valuation ราคาหุ้น BPP ยัง Laggard กล่มค่อนข้างมาก โดยหากเทียบกล่มพลังงานและตลาดรวมที่ให้ผลตอบแทนราว 22% และ 46% YTD ขณะที่ราคาห้นุ BPP กลับติดลบราว 5.5% YTD หากเทียบ P/E พบว่า BPP ซื้อขายอยู่ที่ P/E เฉลี่ย 17 เท่า หรือตํ่าเป็นอันดับที่ 3 ของกลุ่ม รองจาก EGCO และ RATCH
อย่างไรก็ตาม เมื่อนําการเติบโตในปี 61 มาเทียบ ทางฝ่ายพบว่า BPP มี PEG ตํ่าสดในกลุ่มที่ 0.7 เท่า โดยค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1.07 เท่า ประเมนราคาพื้นฐานในปี 2561 ที่ 30 บาท แนะนํา “ซื้อ”
www.mitihoon.com