UTP ออร์เดอร์ทะลัก ดันรายได้พุ่ง40%

402

มิติหุ้น – UTP ออเดอร์ทะลัก ดันกำลังผลิตทะยาน คาดทั้งปีเฉลี่ยทะลุ 2 แสนตัน หนุนรายได้เติบโต 30-40% เล็งแตกไลน์ธุรกิจโซลาร์รูฟท็อป-โซลาร์ฟาร์ม โบรกฯเพิ่มคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 13.50 บาท

 

          ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ยูไนเต็ด เปเปอร์ หรือ UTP ผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายกระดาษและวัสดุการพิมพ์ โดยนายมงคล มังกรกนก กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า กำลังการผลิตช่วงไตรมาส 1/61 จะอยู่ระดับ 18,000 ตันต่อเดือน เทียบไตรมาส 4/60 ที่กำลังการผลิตเฉลี่ย 9,000-12,000 ตันต่อเดือน

เนื่องจากมีคำสั่งผลิตกระดาษเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในต่างประเทศที่มีคำสั่งซื้อราว 3,000-4,000 ล้านตันต่อเดือน ทั้งจากเมียนมา  เวียดนาม ดังนั้น ไตรมาส 1/61 ผลประกอบการมีแนวโน้มออกมาดี

อัพกำลังผลิต ดันรายได้โต 30-40%

ขณะที่ภาพรวมปี 2561 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 30-40% เนื่องจากปีก่อนได้เพิ่มเครื่องจักรผลิตกระดาษเข้ามา ส่งผลให้มีกำลังการผลิตรวมที่สามารถรองรับได้ในระดับ 20,000 ตันต่อเดือน คาดปีนี้จะมีกำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ระดับ16,000-18,000 ต่อเดือน หรือ 1.92-2.16 แสนตันต่อปี จากปี 2560 มีกำลังการผลิตประมาณ 1 แสนกว่าตันต่อปี

ขณะเดียวกัน ปีนี้ยังได้รับปัจจัยหนุนจากกรณีที่รัฐบาลจีนห้ามนำเข้าขยะ 24 ชนิด ครอบคุมทั้งพลาสติกและกระดาษ ส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบลดลง โดยราคาเศษกระดาษปัจจุบันเฉลี่ยที่ 6 บาทต่อกิโลกรัมลดจาดเฉลี่ย 7 บาทต่อกิโลกรัม

เล็งแตกไลน์พลังงานทดแทน

อย่างไรก็ตาม เพื่อรองรับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น บริษัทเตรียมขยายพื้นที่โกดังเพิ่มขึ้นอีก 6,000 ตร.ม.  จากปัจจุบันรองรับได้ 6,000 ตร.ม. ส่งผลให้มีโกดังรวมที่ 12,000 ตร.ม. คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 70 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ บริษัทมีแผนแตกไลน์ธุรกิจ โดยอยู่ระหว่างศึกษาลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน ทั้งโซลาร์รูฟท็อป และโซลาร์ฟาร์ม

เพิ่มคำแนะนำ “ซื้อ” – เป้า 13.50 บ.

ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า UTP มีประสิทธิภาพการทำกำไรอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยที่ปรับตัวดีขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบต่ำลง ขณะที่จีนได้เพิ่มมาตรการความไม่บริสุทธิ์ (impurity allowance) ของวัตถุดิบกระดาษนำเข้าเป็น 3.0% จากเดิม 1.5% ยังผลให้เกิดการแคลนในอุปทานที่จีน อีกทั้งยังเป็นการสกัดอุปทานใหม่ๆ ที่จะเข้ามาในตลาด คาดว่าการใช้กำลังการผลิตตั้งแต่มี.ค.61 จะดีขึ้น และสมมุติฐานปริมาณขายปีนี้เป็น 264,000 ตัน

ทั้งนี้ ได้ปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” ด้วยราคาพื้นฐานใหม่ที่ 13.50 บาท หลังปรับประมาณการณ์ปีนี้ดีขึ้น 20% และ 24% ในปีหน้า

www.mitihoon.com