ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.พีทีทีโกลบอล เคมิคอล หรือ PTTGC โดยนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1/2561 มีแนวโน้มเติบโตดี เนื่องจากราคาน้ำมันยังทรงตัวในระดับที่ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาผลิตภัณฑ์ยังดี ส่วนภาพรวมในปีนี้ยังมีทิศทางเติบโตที่ดี ขณะเดียวกัน เตรียมรับรู้รายได้เต็มจาก 5 บริษัทปิโตรเคมีสายโพรเพนและสายพลาสติกชีวภาพที่ได้รับการโอนหุ้นมาจาก บมจ.ปตท. หรือ PTT ราว 4,000 ล้านบาท
สำหรับการลงทุนในพื้นเขตเครษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) คาดใช้เงินลงราว 1.5 แสนล้านบาทในระยะ 5 ปี (61-65) สำหรับลงทุนในโครงการส่วนขยายปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ ซึ่งเป็นโครงการอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นต้นและขั้นปลาย รวมถึงใช้ลงทุนในโครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ของ บมจ.โกลบอลกรีนเคมิคอล หรือ GGCซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PTTGC ใช้เงินลงทุนราว 4.6 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แผนลงทุนในพื้นที่ EEC ปัจจุบันมีพันธมิตรอยู่ 15 ราย และเซ็นสัญญาร่วมลงทุนแล้ว 5 ราย
เบื้องต้น ใช้เงินลงทุน7 หมื่นล้านบาท ลงทุน 3 โครงการ ประกอบด้วยโครงการปรับปรุงกระบวนการผลิตโอเลฟินส์ ซึ่งจะส่งผลให้มีกำลังการผลิต Ethylene 500,000 ตันต่อปี Propylene 250,000 ตันต่อปี Mixed C4 130,000 ตันต่อปี โครงการผลิตสารโพรพิลีน ออกไซด์ 200,000 ตันต่อปี และ โครงการผลิตสารโพลีออลส์ 150,000ตันต่อปี คาดว่าแล้วเสร็จพร้อมเดินเครื่องในปี 2563 หลังจากนั้นจะขยายการลงทุนต่อเนื่อง
โดยบริษัทมีศักยภาพเพียงพอในการลงทุน เนื่องจากมีเงินสดในมือราว 6 หมื่นล้านบาท ขณะที่หนี้สินต่อทุน(D/E) อยู่ในระดับต่ำ 0.15 เท่า ยังมีศักยภาพในการกู้เงินได้อีกประมาณ 1.3 แสนล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนออกหุ้นกู้ 10,000 ล้านบาท เพื่อใช้คืนหนี้ที่ครบกำหนดชำระในไตรมาส3 /2561 ราว 9,000 ล้านบาท
ด้านนายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานกรรมการ บมจ. PTTGC กล่าวว่า กลุ่ม ปตท. (PTT) มีแผนลงทุนธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นราว 3 แสนล้านบาทในพื้นที่ EEC ในช่วง 5 ปี (2561-2565) โดยในส่วนนี้เป็นการลงทุนของ PTTGC ราว 1.5 แสนล้านบาท เป็นการขยายปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ
www.mitihoon.com
