มิติหุ้น – สแกนหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล แกร่งชนะตลาด โบรกฯ ชี้เป็นหุ้น Defensive ไม่ผันแปรตามภาวะเศรษฐกิจ ราคาแกว่งตัวน้อยกว่าตลาด นักลงทุนสนใจเก็บเข้าพอร์ตเพิ่ม แนะ BH, BDMS, BCH, EKH และ VIBHA โตเด่น
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานความเคลื่ อนไหวภาพรวมตลาดหุ้นไทยเมื่อวั นที่ 23 มี.ค. ปรับตัวลดลง โดยปิดที่ 1,794.21 จุด ลดลง 4.34 จุด หรือ -0.24% แต่ในส่วนของหุ้นกลุ่ มโรงพยาบาลปรับตัวเพิ่มขึ้น สวนทางตลาดที่ลดลง โดยนักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประเมินว่า จากภาพรวมหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่ เริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3-4/2560 ยังคงเป็นหุ้นในลักษณะ Defensive ที่ไม่ผันแปรตามภาวะเศรษฐกิจโลก และราคาแกว่งตัวน้อยกว่าตลาด ทำให้นักลงทุนเริ่มหันกลับมาให้ สนใจหุ้นในกลุ่มนี้มากขึ้น
กลุ่ม รพ. แกร่งชนะตลาดผันผวน
ขณะที่ในปี 2561 หุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลยังได้รั บปัจจัยบวกสนับสนุนจากจำนวนผู้ ป่วยที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และมีการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ ายมากขึ้น ทำให้ช่วยหนุนรายได้และอั ตรากำไร สำหรับกลยุทธ์การลงทุน มองว่ายังมีแนวโน้มเชิงบวก แนะนำ “ซื้อ” หุ้นน่าสนใจ ได้แก่ หุ้น BH, BDMS, BCH, EKH และ VIBHA
โดยประเมินหุ้น บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ หรือ BH คาดปริมาณผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นอย่ างต่อเนื่องในปี 2561 และเติบโตแข็งแกร่งในตลาดเอเชี ยแปซิฟิก จากจำนวนผู้ป่วยชาวตะวั นออกกลางที่ทรงตัว ขณะที่ค่ารักษาพยาบาลปรับตัวเพิ่ มขึ้นเฉลี่ย 5% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่ อน ทำให้คาดอัตรากำไรจะดีขึ้นตั้ งแต่ไตรมาส 1/2561 ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 230 บาท
ส่วนหุ้น บมจ. บางกอก เชน ฮอสปิทอล หรือ BCH จะได้รับประโยชน์จากประเด็นเปลี่ ยนแปลงการจ่ายเงินประกันสั งคมแบบใหม่ ขณะที่ World Medical Center (WMC) คาดทำกำไรได้ในปี 61 และการขยายธุรกิจในและต่ างประเทศยังเป็นไปตามแผน คาดกำไรจะมาจากจำนวนผู้ป่วยที่ เพิ่มขึ้น แนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 17 บาท
ชู BDMS โตเด่น – เป้า 24.70 บ.
ด้านนักวิเคราะห์ บล.ฟิลิป (ประเทศไทย) ประเมินหุ้น บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ หรือ BDMS โดยคาดแนวโน้มปี 61 การดำเนินงานจะปรับตัวเด่นกว่ าที่ประเมินก่อนหน้า จากจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น บวกกับมีผู้ป่วยต่างชาติเข้าใช้ บริการมากขึ้น รวมถึงยังมีบริการใหม่ๆ จากการร่วมมือกับบริษัทประกันสุ ขภาพ และแนวโน้มไตรมาส 1/2561คาดรายได้เติบโตโดดเด่น หลังมีโรคระบาดและไข้หวัดใหญ่ ดังนั้น คงคำแนะนำ “ทยอยซื้อ” โดยปรับราคาพื้นฐานปี 61 เป็น 24.70 บาท