มิติหุ้น- III ผู้นำโลจิสติกส์ครบวงจรของไทย เปิดคลังสินค้าระหว่างประเทศที่ดอนเมือง ครองส่วนแบ่งตลาด 85% รองรับยอดการค้าเติบโต ปีนี้ตั้งเป้าเติบโตกว่า 20%
นายธีรนิติ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา กรรมการจัดการกลุ่มธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศ บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III เปิดเผยว่า บริษัทฯได้เริ่มให้บริการคลังสินค้าระหว่างประเทศ ที่ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมืองตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยได้รับสัมปทานจาก บมจ. ท่าอากาศยานไทย ด้วยพื้นที่ให้บริการขนาดประมาณ 5,000 ตารางเมตร โดยคาดว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณมากกว่า 85% เนื่องจากมีสายการบินไทยแอร์เอเชียและไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ซึ่งมีจำนวนเที่ยวบินที่สนามบินดอนเมืองมากที่สุดเป็นลูกค้าหลัก นอกจากนี้ยังให้บริการแก่กลุ่มสายการบินสกู๊ต กลุ่มไทเกอร์แอร์ โอเรียนไทย และไชนาเอ๊กเพรสอีกด้วย
ปัจจุบันท่าอากาศยานดอนเมือง มีเที่ยวบินระหว่างประเทศร่วม 60,000 เที่ยวบินต่อปี และ คาดว่าจะมีปริมาณการขนส่งสินค้า เพิ่มขึ้นเป็น 93,000 ตันต่อปี เติบโตประมาณ 20% ตามจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯ ให้บริการด้านคลังสินค้าระหว่างประเทศและบริการที่เกี่ยวเนื่องในภาคพื้นอากาศยาน เช่น การให้บริการสินค้าผ่านคลังทั้งสินค้าขาออก ขาเข้า และTransit การคัดแยกและจัดบรรทุกสินค้าให้กับสายการบิน และการจัดเตรียมเอกสารสำหรับการเดินพิธีการศุลกากร รวมถึงการให้บริการด้านการรักษาความปลอดภัย เช่น การ X-Ray สินค้าขาออก และ Transit เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยของท่าอากาศยาน และกฏการบินนานาชาติ โดยให้บริการครอบคลุมสินค้าประเภทต่างๆ ทั้งสินค้าทั่วไปและสินค้าที่เน่าเสียง่าย (perishable goods) และหากในอนาคตมีลูกค้าใหม่ที่ต้องการใช้บริการเพิ่มขึ้น ทางบริษัทฯ สามารถขยายบริการให้ครอบคลุมถึงประเภทสินค้าตามความต้องการของลูกค้าได้
ซึ่งการเปิดบริการคลังสินค้าระหว่างประเทศฯ เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การขยายธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศ (Air Freight Business) ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ ซึ่งประกอบด้วย
1.การเป็นตัวแทนสายการบินที่ในปีนี้สายการบินไทยแอร์เอเชียและไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ได้มีการขยายเส้นทางและเพิ่มจำนวนเที่ยวบินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังการปลดล็อค มาตรฐานสนามบินนานาชาติของ ICAO ซึ่งจะส่งผลดีต่อการขยายเส้นทางการบินและการขนส่งสินค้าทางอากาศ
2.การขนส่งสินค้าทางอากาศแบบขายส่งนั้น จะมุ่งเน้นขยายฐานลูกค้าระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น โดยโฟกัสที่กลุ่มอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าจากประเทศจีนและประเทศอื่นๆในภูมิภาคที่มีศักยภาพในการพัฒนาธุรกิจ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฮับในการขยายธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ
3. บริการคลังสินค้าระหว่างประเทศฯ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตสูงจากจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นและบริษัทฯ จะมองหาโอกาสในการเปิดคลังสินค้าทางอากาศระหว่างประเทศเพิ่มเติมในสนามบินนานาชาติอื่นๆ ต่อไป
ซึ่งการขยายตัวของธุรกิจการขนส่งทางอากาศ ทางเรือ และขนส่งเคมีภัณฑ์และสินค้าอันตราย คาดว่าจะทำให้รายได้ของบริษัทฯ เติบโตขึ้นอย่างมั่นคงมากกว่า 20% จากปีก่อน