สัปดาห์นี้มีประเด็นเด่นที่สำคัญต่อตลาดคือ การขึ้นดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการประชุมวันที่ 22 มีนาคมนี้ ซึ่งก็เป็นที่แน่ๆแล้วว่าจะขึ้นดอกเบี้ยอย่างแน่นอน จาก 1.5% เป็น 1.75% แต่นั่นก็เป็นประเด็นที่ตลาดรับรู้ไปเรียบร้อยแล้วดังนั้นจึงไม่น่าจะมีผลต่อตลาด แต่ในเรื่องเดียวกันนี้ที่ติดตามคือถ้อยแถลงและแนวทางในการดำเนินนโยบายการปรับขึ้นดอกเบี้ยหลังจากนี้ หากนาย Jerome powell ไม่มีการสร้างการคาดการณ์ให้กับตลาดแล้ว (Interest rate expectation forming) อาจจะทำให้ความผันผวนเข้ามากดดันตลาดได้อีกครั้งและภาวะดังกล่าวอาจจะปกคลุมตลาดมากกว่า 1 ปี ขึ้นไป โดยรวมด้วยมุมมองของ KTBST ก็ยังคาดว่า ปัจจัยการลงทุนในสัปดาห์นี้ยังให้น้ำหนักส่วนใหญ่อยู่ที่เรื่องปัจจัยต่างประเทศอยู่ ทั้งเรื่องการประชุม Fed และมาตรการทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ ประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะจีน
แล้วการลงทุนในสัปดาห์นี้ล่ะ..? ต้องบอกว่าตลาดยังมีแรงกดดันจากปัจจัยต่างประเทศอยู่ ซึ่งตลาดหุ้นไทยขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,800 จุดได้อีกครั้งแม้จะยังมีแรงขายออกมาบ้าง โดยเปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาดัชนีปิดตลาดปรับตัวลงไป 11.97 จุด หลุดลงมาอยู่ที่ 1,799.79 จุด ขณะที่ตลาดสหรัฐฯ มีอีกประเด็นที่น่าจับตามองคือการเทขายหุ้น FACEBOOK ที่ตกลงต่ำสุดในรอบ 4 ปี หลังมีเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการจัดการการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ นั่นทำให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เป็น Platform Social Media อื่นๆ มีแรงเทขายออกมาด้วย ขณะเดียวกันยังมีเรื่องจากเรื่องการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน รวมถึงเรื่องการเมืองในรัฐบาลสหรัฐฯด้วย แต่เมื่อมองที่ปัจจัยในประเทศแล้วนอกเหนือจากเรื่องการเมืองแล้วด้านการลงทุนยังค่อนข้างมีทิศทางที่เป็นบวกอาจเป็นจังหวะที่นักลงทุนเริ่มกลับเข้ามาลงทุนได้บ้างในสัปดาห์นี้ นักลงทุนสามารถเข้าสะสมหุ้นที่ปรับตัวลงมา มุมมองของ KTBST ยังมองว่ากรอบดัชนีในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,800 -1,840 จุด
ทั้งนี้การเลือกเข้าลงทุนในหุ้นรายตัวนั้นยังเป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องใช้เป็นกลยุทธ์อยู่ หุ้นกลุ่มใหญ่ก็ยังเป็นที่น่าสนใจของตลาดในสัปดาห์นี้ ประกอบด้วยเช่น CPALL , INTUCH , PTTGC และ PTTEP อีกประเด็นที่น่าสนใจคือเรื่องมาตรการช่วยเหลือกลุ่มทีวีดิจิตอลจากทาง กสทช. ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อหุ้นดังกล่าวด้วย โดยเฉพาะ ตัวสำคัญอย่าง BEC , RS
ชาตรี โรจนอาภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์
บล. เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (KTBST)
