ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ หรือ BEM โดยฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย ได้ปรับเพิ่มคำแนะนำ BEM เป็น “ซื้อ” จาก “ถือ” และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 8.30 บาทจาก 7.90 บาท สืบเนื่องจากฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2561/2562 ขึ้น เพื่อสะท้อนกำหนดการเปิดเดินรถโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินในช่วงเดือน มิ.ย. 2562 ซึ่งนับว่าเร็วกว่ากำหนดการเดิม 3 เดือน ประกอบกับการประมูลสัญญาปฏิบัติงานและงานบำรุงรักษา (O&M) สำหรับโครงการมอเตอร์เวย์และรถไฟความเร็วสูงก็คาดว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนกำไรบริษัทได้ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ยังประเมินอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ของจำนวนผู้โดยสารจากสายสีน้ำเงินในช่วงปี 2561-2570 จะอยู่ที่ 10% ด้วยแรงหนุนจากโครงการ MRT ใหม่ที่จะเริ่มเปิดให้บริการในช่วงปี 2562-2566 และจากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ใกล้เคียง
ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์มีสมมติฐานว่าจะไม่มีการขยายอายุสัมปทานโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 ช่วงหลังปี 2563 ดังนั้น หากสัญญาดังกล่าวมีการขยายกรอบเวลาออกไป ก็จะก่อให้เกิด upside ต่อประมาณการกำไรและราคาเป้าหมาย
ขณะที่บทวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำซื้อ BEM ที่ราคาเป้าหมาย 10 บาท/หุ้น โดยคาดว่าแนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส1/2561 จะเติบโต จากช่วงเดียวกันของปีก่อนโดย (กำไรไตรมาส1/2561อยู่ที่ 702.31 ลบ.) และจากไตรมาส 4/2560 จากสถิติช่วงครึ่งหลังของปี 2561 จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่เพิ่มขึ้น 8.4 % และปริมาณรถบนทางด่วนเพิ่มขึ้นทุกเส้นทางโดยพบว่าเพิ่มขึ้น 2.6 % โดยเฉพาะทางด่วนศรีรัชรอบนอกที่ทำจุดสูงสุดใหม่แตะระดับ 5.7 หมื่นคันต่อวัน (+24 % Y-Y) พร้อมคาดไรปี 2561 ที่ 3.7 พันล้านบาท เติบโต 18 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากต้นทุนที่ลดลงตามการขยายอายุสัมปทานรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน และการเชื่อมต่อสถานีเตาปูน-บางซื่อเต็มปี ราคาหุ้นมี Upside จากการเปิดประมูลทางด่วน 2 สาย และรถไฟฟ้าสีม่วงใต้ ซึ่ง BEM มีความได้เปรียบเพราะเป็นส่วนต่อต่อเนื่องจากของเดิมที่มี
www.mitihoon.com